#DNAjournal EP.3 #DNAbySPU
[Workpoint :: How to go from good to great :: เราจะไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งนั้นได้พัฒนาจนสุดทางแล้ว?] คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม #Workpoint #TheMaskSinger . . หลายครั้งที่เราพยายามสร้างสรรค์เส้นทางที่แตกต่าง เพื่อยกระดับจากสิ่งที่ดีอยู่แล้วไปสู่สิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่ถึงแม้เราจะพยายามอย่างไร ใช้ทรัพยากรด้านเงินและเวลาเท่าไหร่ แต่บ่อยครั้งที่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้สร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่โดดเด่น ถึงแม้อาจจะแตกต่างบ้างแต่เป็นแค่รายละเอียดและบริบทเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ถือว่าแตกต่างอยู่ดี . . ปัจจุบันในประเทศไทยมีรายการโทรทัศน์ประเภทมิวสิคโชว์อยู่มากมายหลายรายการ ถึงบริบททางด้านรูปแบบและรายละเอียดจะแตกต่างกัน แต่ก็มีรูปแบบที่แทบจะเหมือนกันทุกรายการ เหมือนกับจะเป็นการบอกผู้ชมชาวไทยว่ารายการประเภทมิวสิคโชว์นั้นได้พัฒนามาจนสุดทางแล้ว . . แต่มีรายการมิวสิคโชว์อยู่รายการหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยไอเดียที่กล้าหาญ กล้าฉีกกรอบไปสู่แนวคิดใหม่ นั่นคือรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซึ่งได้รูปแบบรายการมาจากรายการ King of Masked Singer จากประเทศเกาหลีใต้ . . หลังออกอากาศไปไม่นานรายการนี้ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ทั้งด้านเรตติ้ง และกลายเป็น Talk of the town ไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผลิตสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย และเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ระบบดิจิทัลช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 มีเรตติ้งกระฉูด จนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็แซงหน้าแชมป์เก่าช่อง 3 และ 7 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ . . หลักสูตร #DNAbySPU ได้เชิญ พี่กรณ์ คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) #Workpoint มาเล่าถึงสูตรสำเร็จในการสร้างสรรค์เส้นทางให้รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้องประสบความสำเร็จ . . เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2532 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ที่มีคุณภาพ ประกอบด้วยสาระ และความบันเทิง เริ่มทำการผลิตรายการ เวทีทอง ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นรายการแรกในปี พ.ศ. 2532 ต่อมาได้ขยายการผลิตรายการและละครประเภทต่างๆ หลากหลายรูปแบบ และหลากหลายสถานี เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ มาโดยตลอด จนวันนี้ได้กลายเป็นของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 . . แน่นอน !! เราคาดหวังว่าจะได้รู้เคล็ดลับของรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ว่ามีสูตรสำเร็จอย่างไร? มีกรรมวิธีแบบไหน? ต้องใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง? แต่คำตอบของคุณกรณ์กลับเป็นคำตอบที่เรียบง่ายและทรงพลังกว่ามาก . . เคล็ดลับความสำเร็จมีแค่สองอย่าง …ถูกต้อง…แค่สองอย่างเท่านั้น แต่สองอย่างนี้กลับสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับรายการประเภทมิวสิคโชว์ที่เหมือนจะพัฒนามาไกลจนสุดทาง ไม่สามารถพัฒนาไปต่อได้อีกแล้ว . . เคล็ดลับข้อแรก เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิงมาเป็นเวลา 28 ปี … 28 ปีเป็นเวลานานพอที่จะให้บริษัทฯ ได้วิวัฒนาการจนได้รับประสาทสัมผัสที่พิเศษ คือ มีสายตาที่จะเห็นข้อมูลพิเศษ ซึ่งข้อมูลพิเศษนั้นก็เป็นข้อมูลในรูปแบบตัวเลข ซึ่งช่องหรือรายการอื่นๆ ก็ได้รับเหมือนกัน ไม่แตกต่างอะไรเลย แต่ทางบริษัทฯได้มองว่าข้อมูลชุดเดียวกันนั้น เป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึง “อารมณ์ของมนุษย์” . . ผู้ชมชาวเกาหลีใต้และผู้ชมชาวไทย ถึงแม้จะชื่นชอบรายการประเภทมิวสิคโชว์เหมือนกัน แต่ว่ามีบริบทและรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน มีอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน การจะนำรายการจากประเทศนึงมาสู่อีกประเทศหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงบริบทของผู้ชมในประเทศนั้นก็ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมนัก . . บริษัทฯ จึงได้ตีโจทย์ใหม่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลตัวเลขเชิงสถิติที่ได้จากผู้ชมชาวไทยมา นำไปแปลงให้เป็น “อารมณ์ของมนุษย์” แล้วนำมาศึกษาในหลายๆ แง่มุม เพื่อจะได้สร้างสรรค์รายการที่ให้ผู้ชมชาวไทย “อิน” และ “ติดใจ” จนดูได้ไม่เบื่อ . . ทางรายการจึงได้ลงมือออกแบบรายละเอียดใหม่ ให้ถูกจริตกับผู้ชมชาวไทยมากขึ้น ทำให้รายการนี้ถูกบรรจุความเป็นไทยอยู่ล้นปรี่ ทั้งความสนุกสนาน ความประทับใจ คุณภาพการถ่ายทำ การออกแบบชุดผู้เข้าแข่งขัน และการให้ผู้ชมได้เป็นส่วนหนึ่งของรายการ . . รวมถึงการออกแบบช่องทางการรับชมให้ผู้ชมรับชมได้ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุด ไม่ว่าจะทางโทรทัศน์ ดูสดบน Facebook Live สำหรับผู้ชมที่อยู่นอกบ้าน หรือการให้ดูย้อนหลังบน Youtube สำหรับผู้ชมที่กลัวการตกรถไฟที่ชื่อกระแส Social . . เมื่อเนื้อหาของรายการนั้นดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่รายละเอียดที่ทางบริษัทฯ ผสมเข้าไปนั้นเป็นสิ่งที่ดียิ่งกว่า เมื่อสิ่งสองสิ่งที่ดีทั้งคู่มารวมกัน ก็ย่อมต้องเกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเป็นธรรมดา . . เคล็ดลับที่สองคือทฤษฎี “กฎ 10,000 ชั่วโมง” ของ Malcolm Gladwell (มัลคอล์ม แกลดเวลล์) ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ Outliers ชื่อภาษาไทยคือ “สัมฤทธิ์พิศวง” Malcolm Gladwell ไม่เชื่อว่าการมีพรสวรรค์จะนำไปสู่ความสำเร็จ การฝึกฝนต่างหากที่จะนำพาไปสู่ความเป็นสุดยอด เขากล่าวว่า “เราทุกคนสามารถที่จะมีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งได้ หากเราใช้เวลากับมันอย่างต่ำ 10,000 ชั่วโมง 10,000 ชั่วโมงนี้ ไม่ได้หมายความว่าทำ 1 ชั่วโมงเเล้วนอนทับมันอีก 9,999 ชั่วโมง 10,000 ชั่วโมงนี้หมายความว่า คุณต้องทำมันให้ครบ 10,000 ชั่วโมง” . . ตามกฎ 10,000 ชั่วโมง ถ้าฝึกวันละ 12 ชม. ใช้เวลา 833 วัน หรือ ประมาณ 2 ปี . . เด็กหนุ่ม 4 คนจากเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ มีความฝันจะเป็นวงร็อกแอนด์โรล จึงตั้งวงดนตรีเพื่อฝึกซ้อมดนตรีอย่างจริงจังในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1957 ด้วยฝีมือในการเล่นดนตรีที่โดดเด่น จึงมีโอกาสเล่นทั้งในเวทีเป็นทางการ เช่น งานแสดงดนตรีในเมืองลิเวอร์พูล และเวทีที่ไม่เป็นทางการ เช่น คลับระบำเปลื้องผ้าแห่งหนึ่งในฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน . . วงของพวกเขาเล่นดนตรีสัปดาห์ละ 7 วัน แต่ละคืนมากกว่า 5 ชั่วโมงขึ้นไป ชั่วโมงบินของวงนี้จึงสูงลิ่ว ว่ากันว่า ตอนที่พวกเขาประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1964 วงของพวกเขาฝึกซ้อมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ชั่วโมง ขณะที่วงดนตรีส่วนใหญ่ฝึกซ้อมไม่ถึง 2,000 ชั่วโมง . . วงดนตรีวงนี้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ The Beatles (เดอะบีเทิลส์) ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางให้เป็นวงร็อกที่มีอิทธิพลที่สุดแห่งยุคและเป็นหนึ่งในวงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด Time Magazine ได้ใส่ชื่อพวกเขาในหัวข้อ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็น “วงที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์” ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 600 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก พวกเขายังได้ถูกบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล ในปี 1988 . . 28 ปีที่บริษัทฯ ผลิตรายการประเภทต่างๆมาโดยตลอดตั้งแต่ เกมโชว์, ควิซโชว์, เรียลลิตี้โชว์, ทอล์กโชว์, เกมโชว์สำหรับเด็ก, ซิทคอม, รายการวันหยุดนักขัตฤกษ์, ละครโทรทัศน์เรื่องยาว, ละครเทิดพระเกียรติและสารคดีโทรทัศน์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และยังได้รับรางวัลในหลากหลายสาขา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากมายนับไม่ถ้วน . . 28 ปีในอุตสาหกรรมแน่นอนว่าใช้เวลาเกิน 10,000 ชั่วโมงไปเรียบร้อยแล้ว… ไม่สิ ทะลุ 100,000 ขั่วโมงไปแล้วด้วยซ้ำ แต่บริษัทฯ ไม่ได้ผลิตตามสั่งเท่านั้น ยังเรียนรู้จากผลตอบรับอยู่ตลอด วิธีนี้ดี อย่างนี้ไม่เหมาะ ทำแบบนี้คนไม่ชอบ รับฟัง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “Learning By Doing” จึงเป็นธรรมดาที่บริษัทจะ “เก่ง” ในการผลิตรายการโทรทัศน์ให้โดนใจคนดู ไม่เพียงแต่ผู้ชมชาวไทยในประเทศเท่านั้นแต่ไปถึงระดับโลก . . ดังนั้นสิ่งเล็กๆ แค่สองสิ่งนี้แหละ ที่เป็น “เคล็ดลับความสำเร็จ” ที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดมีแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย . . สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่นั้น ถึงแม้จะยังทำไม่ถึง 10,000 ชั่วโมงตามกฎข้างต้น แต่เวลาไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย แค่ลงมือทำแค่สองอย่าง คือ “ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง” และ “ฟังเสียงของกลุ่มเป้าหมายมากๆ” สองสิ่งนั้นจะทำให้เรามีมุมมองที่เปลี่ยนไปและมองโลกอย่างแตกต่าง สิ่งเล็กๆ นี้จะทำให้เรา “เข้าใจ” และ “ใส่ใจ” ในธุรกิจของเรา . . และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราไม่ต้องออกไปหาเคล็ดลับความสำเร็จหรอก เพราะเดี๋ยวความสำเร็จจะมาหาเราเอง… อ้างอิง :: หนังสือ Outliers ผู้เขียน Malcolm Gladwell , http://workpointtv.com . . #itsyouYOU . . 🔹🔹 #DNAbySPU2 “COME JOIN THE RIDE” 🔹🔹 www.DNAbySPU.com Speaker #DNAbySPU2 https://goo.gl/XGaKHx . หมายเหตุ :: 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.3 ต่อยอดจากการบรรยาย ของคุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) #SurpriseSpeaker #DNAbySPU 18 March 2017 จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
0 Comments
#DNAjournal EP.2 #DNAbySPU
[Why Smell is More Important Than You Think :: กลิ่น สะกดจิต เพราะกลิ่นมีความหมาย] ถ้าพูดถึง “กลิ่น” เราคิดถึงอะไร ? . เราอาจจะมีมุมมองว่า “กลิ่น” นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เป็นเหมือนเครื่องประดับคือมีหรือไม่มีก็ได้ . อยากให้เราลองคิดภาพตาม ความสามารถในการดมกลิ่นเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสแรกที่มนุษย์พัฒนาระหว่างการเติบโต อย่างเด็กทารกแรกเกิดสายตาจะค่อนข้างเลือนราง พวกเขาจึงใช้การดมกลิ่นเพื่อหานมแม่แทนการมองเห็นเด็กทารกจึงจดจำกลิ่นของแม่และดมหาแม่ซ้ำทุกครั้งที่ต้องการอาหารและความอบอุ่นทางใจ . และเชื่อไหมว่า “กลิ่น” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ . โคลอสเซียม (Colosseum) เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมประเทศอิตาลี ออกแบบโครงสร้างให้มีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับนักกีฬา ก่อสร้างดัวยอิฐและหินทราย มีขนาดโดยรอบประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน และเป็น “หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่” . โคลอสเซียมนั้นโด่งดังจากการเป็นสังเวียนการต่อสู้แบบ แกลดิแอเตอร์ (Gladiator) ซึ่งชาวโรมันรับอารยธรรมการต่อสู้นี้มาจากชนเผ่าอิทรัสคัน โดยจะนำคนกับคนมาต่อสู้กันเพื่อความบันเทิง แต่บางครั้งคนกับคนก็ไม่ทำให้ความสะใจของชาวโรมันถึงขีดสุด จึงเสนอไอเดียสุดโต่งคือเอาสัตว์ป่าที่หายาก เช่น ช้าง ม้า สิงโต ฮิปโปโปเตมัส หรือแม้กระทั่งยีราฟมาสู้กับคนซะเลย . ได้ผล ! มีแมทช์พิสดารแบบนี้ทีไร สนามเต็มไปด้วยผู้ชมทุกครั้ง แต่ปัญหาคือจะให้สัตว์นั้นต่อสู้กับคนได้อย่างไร ? . ไอเดียของชาวโรมันคือขังสัตว์ที่กำลังจะต่อสู้ให้อยู่ในห้องที่เต็มไปด้วย “กลิ่นของเลือด” และไม่ให้อาหารเป็นระยะเวลานึงเพื่อให้สัตว์เกิดความเครียดและหงุดหงิดจนถึงขีดสุด และพร้อมที่จะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยความเกรี้ยวกราด . ดังนั้นถ้าขาดเรื่องราวของกลิ่นไปสถานที่แห่งนี้จะเป็นได้แค่สิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาเท่านั้นและเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างจากเรื่องราวของโคลอสเชี่ยมคือเรื่อง “นักรบผู้กล้าผ่าแผ่นดินทรราช” หรือ “gladiator” . และกลิ่นสามารถนำมาปรับใช้ในแวดวงธุรกิจและการตลาดอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม . หลักสูตร #DNAbySPU ร่วมกับ คุณ ชลิดา คุณาลัย นักออกแบบกลิ่นให้กับบริษัทนานาชาติชั้นนำของโลกมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ในหัวข้อ “เพราะกลิ่นมีความหมาย” เล่าถึงมุมมองในการทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่จดจำและผูกพันธ์กับลูกค้าได้อย่างไร ? และได้ออกแบบกลิ่นที่จากประวัติและคาแรกเตอร์ผู้เรียน #DNAbySPU เป็นน้ำหอมที่ใช้ในห้องเรียนเป็นการการทดลองการมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดประสบการณ์จริง คุณก้อยกระซิบบอกว่า #DNAbySPU เป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรที่มีกลิ่นเป็นของตัวเองเลยทีเดียว . และยกเคสการทดลองในบ่อนคาสิโนในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่ารายได้จากการพนันเพิ่มขึ้น 48 เปอร์เซนต์เมื่อมีการกระจายกลิ่นหอมของดอกไม้และซีตรัสอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าจะรู้สึกผ่อนคลายและใช้เวลากับสถานที่นั้นนานขึ้น . จากการศึกษาในหัวข้อ “การใช้กลิ่นเพื่อสร้างบรรยากาศในพื้นที่สำนักงาน” พบว่า กลิ่นมะนาวช่วยลดความผิดพลาดของงานได้ถึง 54 เปอร์เซนต์ . ร้านค้าประเภทแฟชั่นสำหรับสตรีในประเทศอังกฤษ เลือกใช้กลิ่นที่เป็นผู้หญิง เช่น กลิ่นวานิลลา พ่นไปบนสินค้า จะทำให้การขายในร้านเพิ่มขึ้นสองเท่า เมื่อเทียบกับการไม่ได้พ่นกลิ่นหอมบนตัวสินค้า . อุตสาหกรรมธนาคารในประเทศจีน ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีและลดความเครียดจากการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางธนาคาร . บางครั้งกลิ่นเปรียบเสมือนอาวุธลับเพื่อสร้างความแตกต่างในการแข่งขันแต่บางคราวกลิ่นอันสามารถพาเรานั่งไทม์แมชชีนไปสู่อดีตได้ . อดีตที่เรามีความทรงจำที่งดงาม ไม่ว่าจะสุดสนุก หรือแสนเศร้า ประสบการณ์เกี่ยวกับผู้คน หรือสิ่งของที่มีความหมายกับเรา และเราสามารถเรียกมาได้ในทันที ภายใต้การหายใจแค่ครั้งเดียว . เหตุผลของปรากฏการณ์นี้ อธิบายได้ด้วยกายวิภาคและสรีระระบบประสาท . เมื่อเราถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นอะไรบางอย่าง ปฎิกิริยาจะถูกส่งไปที่สมองส่วนใน ซึ่งมีในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชั้นสูงเท่านั้น เรียกว่าระบบลิมบิค (Limbic system) ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงอารมณ์ เช่น ความรักผูกพัน ความชิงชัง ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว และยังทำหน้าที่เก็บความจำทั้งระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย . ที่เราเคยได้ยินว่าการใช้กลิ่นหอมสามารถสร้างอารมณ์ได้ แต่จริงๆ แล้วมันมีความซับซ้อนมากกว่านั้น กลิ่นหอมไม่ได้ช่วยสร้างอารมณ์ แต่เป็นตัวเรียกความทรงจำซึ่งมีความสัมพันธ์กับอารมณ์ต่างหาก . ดังนั้นผู้ประกอบการที่กำลังจะออกแบบสินค้าหรือบริการที่สื่อสารผ่านอารมณ์ ประสบการณ์ หรือความรู้สึก จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องศาสตร์ของการออกแบบกลิ่น เพราะ “หนึ่งรูปภาพสื่อได้หลายร้อยความหมาย แต่หนึ่งกลิ่นสื่อสารได้หลายร้อยความทรงจำ” . อ้างอิง : www.haamor.com/www.comfort.co.th/ www.air-aroma.com 🔹🔹 #DNAbySPU2 “COME JOIN THE RIDE” 🔹🔹 www.DNAbySPU.com Speaker #DNAbySPU2 https://goo.gl/XGaKHx . หมายเหตุ :: 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.2 ต่อยอดจากการบรรยาย ของคุณก้อย ชลิดา คุณาลัย นักออกแบบกลิ่นให้กับบริษัทนานาชาติชั้นนำของโลก Speaker #DNAbySPU 11 March 2017 ในหัวข้อ เพราะกลิ่นมีความหมาย . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAbySPU #DNAjournal EP.1
. [Virtual Reality :: VR ประตูสู่การผจญภัยในดินแดนจินตนาการ] . ในปี ค.ศ. 1992 เอ.เจ โรมิสซอว์สกี้ ศาสตราจารย์ทางด้านการออกแบบ การพัฒนา และการประเมินผลสื่อการเรียนการสอน ของมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ได้ให้คำนิยามของ “สื่อ” คือ “ตัวนำสารจากแหล่งกำเนิดของการสื่อสารไปยังผู้รับสาร” . โดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเราได้รับสารจากผู้ส่งสารผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 บนร่างกาย เราจะใช้สมองของเรา “ตีความ” เป็นภาษาที่เราเข้าใจเสมอ . ไม่ว่าจะอ่านหนังสือจากนิตยสาร ได้ยินเสียงเพลงจากวิทยุ รับชมคลิปโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่มองรูปภาพที่เด็กซนเขียนเล่นที่ฝาผนัง ถ้าสารนั้นถูกสื่อสารผ่าน “สื่อ” เราก็จะใช้รูปแบบการตีความแบบเดิมๆ . จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนที่เข้าใจถูกและเข้าใจผิด เพราะแต่ละคนจะตีความไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ประสบการณ์ สภาวะจิตใจในขณะนั้น . มันมีระยะห่างเล็กๆในการตีความระหว่าง “ความจริงที่ผู้ส่งสารจะสื่อ” และ “ความเข้าใจของเราในการตีความหมาย” ทำให้เรามองต่างมุมจากคนอื่นทั้งๆที่ได้รับข้อความบนจดหมายอย่างเดียวกัน . แต่มีเทคโนโลยีหนึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกของการสื่อสารไปตลอดการ . สิ่งนั้นจะเปลี่ยนจาก “สื่อ” ที่เคยทำให้คนมีความคิดที่แตกแยกในวันนั้น กลับมาเป็น”สื่อ”ที่ทุกคนจะหันกลับมามองที่มุมเดียวกันในวันนี้ . Virtual Reality หรือ VR คือ เทคโนโลยีนั้น เทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนสื่อต้องตีความ มาเป็นสื่อที่จะสร้างความเข้าใจ . VR ทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นการเห็นภาพเขียนในถ้ำของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ การเข้าไปฟังคอนเสริ์ตเอลวิส เพรสลีย์ในลาสเวกัส การเป็นพยานในพิธีสาบานตนของ บารัค โอบาม่าในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2009 หรือแม้แต่การออกไปจับมือกับมนุษย์ต่างดาวที่สุดขอบกาแลกซี่ . วันนี้ Google ได้ร่วมมือกับ Queen วงร็อคในตำนาน ในโปรเจคที่ชื่อว่า Bohemian rhapsody experience โดยใช้เพลงที่เข้าถึงคนทั่วโลกและมีความหมายที่ลึกล้ำ เพื่อแสดงให้เห็นอนาคตที่ก้าวไกลของเทคโนโลยีนี้ ว่าสามารถพาเราไปในจินตนาการได้ล้ำลึกเพียงใด ? https://play.google.com/store/apps/details?id=com.withgoogle.bohemianrhapsody&hl=th . หลักสูตร #DNAbySPU ร่วมกับ #infofedVR ใช้ VR เป็นสื่อการสอนครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อขยายภาพสู่การศึกษา ในการ VR มาใช้ สะท้อนภาพ VR ไม่ได้ถูกสร้างเพื่อจุดประสงค์ในการยกระดับความบันเทิงเท่านั้น แต่ช่วยเพิ่มทักษะในการเรียนรู้ของมนุษย์ในด้านต่างๆ เช่นในวงการแพทย์ที่ทำให้เรามองเห็นและเข้าใจระบบชีววิทยาในช่องปาก รวมถึงหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ เช่นการซ่อมแท่นขุดเจาะน้ำมันในใต้ทะเลลึก . หรือแม้แต่การนำเรื่องที่เป็นของพวกเขามาเป็นเรื่องของเราซึ่ง VR สามารถพาเราเข้าไปเห็นความเป็นอยู่ในแคมป์ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ถึงแม้เราจะอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งก็ตาม . อาจจะฟังแล้วเหมือนเป็นเทคโนโลยีที่ไกลตัวสำหรับ SME แต่จริงๆแล้ว เรากำลังอยู่ใน “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ VR” เพราะทั้ง hardware และ Software ก็พร้อมใช้งานได้จริงแล้ว ราคาก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม อุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็คือโทรศัพท์มือถือและแว่นตา #infofedVR . ตอนนี้จิ้กซอว์ทั้งหมดถูกประกอบไว้หมดแล้ว ขาดแค่จิ้กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะประกอบภาพนี้ให้สมบูรณ์แบบคือ “คอนเทนท์” เท่านั้น . ถ้ามีคอนเทนท์ที่หลากหลาย ในมิติที่แตกต่างแล้วล่ะก็ คลื่น VR จะถาโถมเข้ามาแน่นอนทั้งในรูปแบบของสื่อโฆษณา การใช้รับชมเพื่อความบันเทิง การเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ในวิชาต่างๆหรือแม้แต่เป็นเครื่องมือการเรี่ยไรเงินบริจาค . ทำให้คิดถึง Jack ma ตอนที่เริ่มต้นทำธุรกิจอินเตอร์เน็ต Jack ma ในอดีตไม่ได้มีทรัพยากรหรือความพร้อมอะไรมากมายนัก มีแค่วิสัยทัศน์ที่ “เห็น” ว่า อินเตอร์เน็ตกำลังจะเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมคนในการซื้อสินค้าเพราะกำลังอยู่ใน “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด”เท่านั้น แค่เท่านั้นจริงๆ . แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำนายอนาคตได้ว่า VR กำลังอยู่ในช่วงทะยานไต่ระดับสู่ยอดเขาที่สูงเสียดฟ้า หรืออยู่ในช่วงขาลงสู่การเป็นของเล่นทางเทคโนโลยี หรือที่เราเรียกว่า “แก็ตเจ็ค” . แต่ที่รู้แน่ๆคือเทคโนโลยียังพัฒนาไม่หยุดนิ่ง แล้วเราจะหยุดวิ่งได้อย่างไร ? . . #itsyouYOU . . 🔹🔹 #DNAbySPU2 “COME JOIN THE RIDE” 🔹🔹 www.DNAbySPU.com Speaker #DNAbySPU2 https://goo.gl/XGaKHx . หมายเหตุ :: 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.1 ต่อยอดจากการบรรยาย ของคุณจิรยศ เทพพิพิธ ผู้ก่อตั้ง Infofed และ www.infofed.com Speaker #DNAbySPU 11 March 2017 ในหัวข้อ #infofedVR ประตูสู่การผจญภัยในดินแดนจินตนาการ . . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management, Sripatum Business School, #SPU . www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal EP.0 #DNAbySPU
[Colon and Curve’s Journey] ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร DNAbySPU.com . . “A journey of a thousand miles begins with a single step.” การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ มีจุดเริ่มต้นจากก้าวแรก (ขงจื้อ) . . พวกเราทุกคนล้วนอยากจะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล เปิดบริษัทที่ยิ่งใหญ่เหนือใคร หรือเขียนหนังสือติดอันดับขายดี เราอยากสร้างความฝันที่เรามี ให้ทิ้งรอยไว้ที่จักรวาล . . เราทุกคนต้องเคย “ฝัน” ว่าผลิตภัณท์ของเราจะต้องเป็นที่ต้องการจากทั่วโลกในระยะเวลาที่รวดเร็ว บริษัทของเราที่เพิ่งเปิดจะมีนักลงทุนต่อแถวกันเพื่อนำเงินมากองให้เรา หรือสินค้าที่เราทำจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย . . แต่เมื่อเราลื่มตาตื่นจากฝัน เราจะเห็นว่าความจริงไม่สวยงามเท่าจินตนาการเลย . . ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดด คนจากทั่วโลกแข่งกันพัฒนา “เครื่องทุ่นแรงทางดิจิทัล” ให้มีความรวดเร็วที่สุด ซึ่งอัตราความเร็วนั้นมากกว่าที่เราจะเข้าใจ เราจึงโอบรับเทคโนโลยีนั้นไว้อย่างงงๆ เพราะลึกๆแล้วเราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะทำให้เราถึงฝันได้เร็วและง่ายดาย เพราะเทคโนโลยี “เก่ง” กว่าเรา และจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ในชั่วเวลาข้ามคืน . . กุหลาบที่งดงามย่อมจะมีหนามที่แหลมคม ความงดงามดอกกุหลาบย่อมเชิญชวนให้ผู้คนอยากหามาไว้ในครอบครอง แต่หนามที่แหลมคมก็ทำอันตรายให้แก่ผู้ครอบครองได้เช่นกัน . . เครื่องมือทางดิจิทัลก็เช่นกัน ถ้าเราใช้อย่างมีถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ย่อมจะสร้างผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง แต่ถ้าเราใช้อย่างไม่รู้จุดประสงค์และไร้จุดหมาย เครื่องมือทางดิจิทัลจะเอื้อมมือออกมาปิดตาเรา ทำให้เรามองไม่เห็นความจริง และจะจองจำเราจากการเติบโต . . ดังนั้นเราจะป้องกันความเข้าใจผิดในเครื่องมือดิจิทัลได้อย่างไร ? . . จึงเป็นที่มาของ หลักสูตร #DNAbySPU – Digital Network Advantage หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรมทางความคิด โดย สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีพลวัตในยุคปัจจุบัน โดยใช้ Digital Marketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง . . ที่ผ่านมาเรามักจะคิดว่า Digital marketing คือการทำโฆษณาผ่าน Social media เท่านั้น แต่จริงๆแล้ว Social media นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของกระบวนการเท่านั้น กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่เริ่มถึงจบกระบวนการ มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน . . เริ่มต้นที่ “Awareness” เราสามารถใช้ Social media เป็นเครื่องมือในการสร้างความรับรู้ ขั้นตอนต่อมาคือ “Interest” ในขั้นตอนนี้เราจะใช้ Website, Blog และการรีวิวในรูปแบบต่างๆ เพื่อปลุกเร้าให้ลูกค้ามีความต้องการและหันมาสนใจในสินค้าของเรา ขั้นตอนต่อมาคือ“Desire” เมื่อลูกค้ารู้และสนใจสินค้าแล้ว คำถามคือทำอย่างไรให้ลูกค้าปรารถนา ? ซึ่งทั้ง 3 ขั้นตอนจะนำไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือ “Action” . . อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของเครื่องมือดิจิทัลมีสิ่งที่เหนือกว่าเครื่องมืออื่นๆคือ “การเก็บข้อมูล” ซึ่งถ้าเราทำการเชื่อมโยงเครื่องมือต่างๆเข้าไว้ด้วยกันอย่างพอดี ภายใต้กรอบของจุดประสงค์ที่ชัดเจน เราจะได้ Data science หรือ การนำข้อมูลตัวเลขมาแปลงให้เป็นอารมณ์มนุษย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่สิ่งที่มีค่าที่สุดในการทำธุรกิจ . . ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเราจากความมืดบอดในเครื่องมือดิจิทัล สามารถเชื่อมโยงเราเข้ากับเครื่องมือต่างๆ และนำข้อมูลที่ได้ไปตอบสนองเพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ . . และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างมูลค่าจากพื้นฐาน DNA ของตัวเราเองให้เราเติบโตได้อย่างยั่งยืน การสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่การสร้างจรวดที่ซับซ้อน เราทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ แค่เพียงนำสิ่งธรรมดารอบตัวมาจัดเรียงเสียใหม่ สิ่งนั้นจะสร้างความหมายใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ . . สัญลักษณ์ Colon : และสัญลักษณ์ Curve ) เมื่อวางอยู่ต่างที่กันบนคีย์บอร์ดก็เป็นแค่สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ธรรมดา แต่ถ้าเรานำมาจัดเรียงใหม่ให้อยู่ด้วยกันเสียใหม่ สัญลักษณ์ทั้งสองจะถูกแปรสภาพจากสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ไปสู่สัญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์และความรู้สึก . . เพราะสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นได้…ขอเพียงหาความมหัศจรรย์ในตัวเราให้เจอ และเราเชื่อว่าความเป็นตัวของตัวเอง โดยนำสิ่งที่มองเห็นแต่มองข้ามไป มาสร้างคุณค่าใหม่ให้กับตัวเองเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดแล้ว . . #itsyouYOU . . 🔹🔹 #DNAbySPU2 “COME JOIN THE RIDE” 🔹🔹 www.DNAbySPU.com Speaker #DNAbySPU2 https://goo.gl/XGaKHx . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.0 ต่อยอดจากการบรรยาย ของ ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ อาจารย์ประจำ สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA – Digital Network หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรมทางความคิด เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีพลวัตในยุคปัจจุบัน กล่าวแนะนำหลักสูตรให้กับผู้เรียนเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจก่อนใช้ชิวิตร่วมกันอีก 10 สัปดาห์ #Speaker #DNAbySPU 25 February 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal EP.6 #DNAbySPU
[Small is beautiful … ยิ่งเล็กน้อยยิ่งงดงาม] :: คุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง . . Small is beautiful ยิ่งเล็กน้อยยิ่งงดงาม . . อะไรคือแรงผลักดันให้คนบางคนทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และเต็มไปด้วยความยากลำบาก ? . . อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีความมั่นใจในการตัดสินใจอะไรบางอย่าง มั่นใจจนเปล่งเสียงออกมาว่า “ฉันรู้ว่าการตัดสินใจของฉันถูกต้อง” ทั้งๆที่เราไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดให้คนอื่นทราบถึงเหตุผลได้ แต่เราก็ยังมั่นใจกับการตัดสินใจครั้งนั้น . . และถึงแม้ว่าการตัดสินใจนั้นจะนำมาสู่ปัญหา แต่เรายินดีที่จะเผชิญกับปัญหาที่จะตามมา ถึงแม้ผลลัพธ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่คาด เราก็พร้อมจะยืนรับฟังด้วยหัวใจที่สงบนึ่ง . . หลักสูตร #DNAbySPU ได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญสุดพิเศษ คุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 Idols บุคคลสาธารณะ โดย Aday 2551 ผู้มาปลุก Passion ให้ ‘เดินตามสิ่งที่เรารัก’ และสร้าง ‘ตำนาน’ เป็นของตัวเอง . . คุณหนุ่มได้มาแชร์วิธีการปรับตัวกับสิ่งพิมพ์ออนไลน์สู่จุดรอดของธุรกิจ ที่ทำให้ร้านหนังสืออิสระของเขาสามารถเปิดให้บริการยืนหยัดอย่างมั่นคงมากว่า 16 ปี ทวนกระแสขาลงของร้านหนังสือในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง . . วิธีการนั้นเป็นวิธีการที่เรียบง่าย กระชับ ทรงพลังและสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงยังสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบงานศิลปะประเภทต่างๆ เช่น การออกแบบแฟชั่น ตกแต่งภายใน วิจิตรศิลป์ การประพันธ์เพลง และแนวทางการใช้ชีวิต . . ปรัชญานั้นคือ “น้อยคือมาก” (Less is more) หรือการลงมือทำแบบน้อยแต่เน้น เริ่มต้นจากกระบวนการคิดหลายๆ รูปแบบ แล้วตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือแค่ใจความสำคัญจริงๆ เท่านั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด . . สำนวน Less is more ปรากฏครั้งแรกในบทกวีของ Robert Browning กวีเอกชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ต่อมา Ludwig Mies Van Der Goh สถาปนิกชาวเยอรมัน ได้นำเอาสำนวน “Less is more” มาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบอาคาร บนความเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน สวยงามแต่ลุ่มลึกในความคิด จนกลายเป็นหัวใจหลักของการออกแบบศิลปะ และได้ถูกพัฒนาเป็น เทรนด์สไตล์มินิมอลในเวลาต่อมา . . หากเปรียบเทียบกับสินค้าหรือบริการ หรือแม้แต่การออกแบบต่างๆ การทำผลงานออกมาอย่างเรียบง่ายและชัดเจน ลูกค้าจะสามารถถอดความได้ง่ายกว่าและเข้าใจได้มากกว่า ทำให้ผลงานนั้นดูโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ . . แต่ก่อนที่เราจะไปสู่ปลายทางของปรัชญา Less is more เพื่อปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ เราต้องผ่านจุดเริ่มต้นก่อน นั่นคือ ”ความชัดเจนว่าทำไมถึงทำ” (Why) เมื่อเราชัดเจนแล้ว เราจะรู้โดยอัตโนมัติว่าต้องทำอย่างไร (How) และต้องทำอะไรบ้างที่เพื่อไปสู่สิ่งที่ต้องการ (What) . . สตรีชาวเคนยา ชื่อ ดร.วังการี มาไท (Dr. Wangari Maathai) ได้เดินทางไปทุกหมู่บ้านทั่วประเทศเคนยา เธอได้เรียนรู้ว่า หญิงชาวเคนยาใช้เวลามากขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงในการออกไปหาไม้ฟืนสำหรับหุงต้มอาหาร ด้วยความเป็นอยู่ที่ แร้นแค้น และขาดความรู้ด้านโภชนาการทำให้ชาวบ้านเกิดโรคขาดสารอาหาร และชาวบ้านขาดรายได้ลงอย่างสิ้นเชิง . . เธอตระหนักว่า ต้นไม้มาจะช่วยแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากแร้นแค้นที่ชาวเคนยาประสบอยู่ เพราะ “ต้นไม้”จะทำให้พวกเขามีอาหารกิน มีสมุนไพรรักษาโรค ช่วยให้มีอาชีพ ดำรงชีพอยู่ได้การมีอยู่มีกิน และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และในที่สุด….. ก็จะนำมาซึ่งความมั่นคงในชีวิตชาวแอฟริกา . . เธอได้ริเริ่มจัดตั้งกลุ่ม “ขบวนการแนวร่วมสีเขียว” (Green Belt Movement) เพื่อรณรงค์ให้ชาวเคนยาปลูกต้นไม้คนละหนึ่งต้น เมื่อชาวเคนยาทุกคนพร้อมใจกันปลูกต้นไม้คนละต้น ประเทศเคนยาก็มีต้นไม้เพิ่มขึ้นมา 15 ล้านต้นในทันที . . แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายคนในวงการต่างๆ พร้อมใจกันมอบสายตาที่เย็นชาและคำเยาะเย้ยให้แก่แนวคิดของเธอว่าต้องล้มเหลวอย่างแน่นอนเพราะเธอไม่มีงบประมาณโฆษณา ประชาสัมพันธ์อย่างมหาศาล ไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้านที่เธอไปคุยด้วยว่าแนวคิดของเธอเป็นความคิดที่เพ้อฝันและโลกสวย เพราะตัวชาวบ้านเองแทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว . . แต่เธอเลือกที่จะไม่สนใจเสียงและสายตาเหล่านั้นและเดินหน้าต่อไป . . ต่อมาไม่นานขบวนการแนวร่วมสีเขียวสามารถปลูกต้นไม้ได้ถึง 30 ล้านต้น และกลายเป็น 45 ล้านต้นในเวลาต่อมา ปัจจุบันนี้ประเทศเคนยาจึงเขียวชะอุ่มปกคลุมไปด้วยต้นไม้ จะยังเหลือก็แต่เพียงในพื้นที่เขตทะเลทรายเท่านั้น . . การคืนสภาพให้แก่ป่าเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่สตรีชาวเคนยาจับต้องได้ ต้นไม้ทำให้พวกผู้หญิงมีไม้ฟืนสำหรับทำเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในครัวเรือน มีรั้วไว้ป้องกันบริเวณบ้านได้ ต้นไม้ยังเป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้แก่ทุกคน และทำให้พวกเธอมีโอกาสหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกด้วย . . เพราะเธอชัดเจนกับแนวคิดที่ว่า “ผืนดินที่มีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นพื้นฐานที่ทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่รอดได้” ทำให้ คณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ปี 2004 เห็นควรมอบรางวัลให้แก่ ดร.วังการี มาไท เป็นเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของทวีปแอฟริกาที่ได้รับรางวัลโนเบล . . คุณหนุ่มเริ่มต้นจากความรักในหนังสือ ด้วยความชัดเจนว่าทำไมถึงทำ (WHY) จึงเลือกเปิดร้านหนังสืออิสระในแนวที่ตัวเองถนัดและชื่นชอบ คุณหนุ่มจึงมีภูมิต้านทานที่จะฟังในเสียงวิพากวิจารณ์เชิงลบ คำบั่นทอน และคำสบประมาท หรือที่คุณหนุ่มเรียกว่า “สภาวะทดสอบจิต” . . ในขั้นตอนการตกแต่งร้าน (How) คุณหนุ่มสมมติว่าถ้าเป็นนักอ่านคนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านหนังสือ บรรยากาศแบบไหนที่อยากได้ ก็เอาตรงนั้นเป็นจุดตั้งต้น คุณหนุ่มจึงตั้งใจให้บรรยากาศในร้านอบอุ่นและเป็นกันเองเหมือนห้องนั่งเล่นในบ้านที่พร้อมจะต้อนรับแขกอยู่เสมอ . . ในขั้นตอนการเลือกหนังสือมาไว้ในร้าน (What) ก็จะเป็นหนังสือแนว “เดินทางและท่องเที่ยว” เพื่อสร้างภาพจำว่าเป็นร้านหนังสือที่ “เล็กแต่ลึก” แตกต่างจากร้านหนังสือยักษ์ใหญ่ที่ “มากและกว้าง” โดยสิ้นเชิง . . ด้วยแนวคิดเล็กๆ นี้ “ร้านหนังสือเดินทาง” ร้านเล็กๆ ที่สร้างด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ จึงดึงดูดคนไทยและคนทั่วโลกที่รักในการเดินทางให้มาที่ร้านของคุณหนุ่ม ดึงดูดความสนใจจากสื่อระดับโลก และดึงดูดผู้บริหารของร้านหนังสือยักษ์ใหญ่ให้มาดูงานที่ร้านของคุณหนุ่ม . . สำหรับผู้ประกอบการที่จะนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้จากที่ไหน ขอแค่ใช้เวลาอย่างสงบในการเริ่มต้นคุยกับตัวเอง ฟังเสียงหัวใจตนเอง ตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมถึงทำ (WHY) . . แน่นอนว่าอาจจะยากซักหน่อย แต่คงไม่ยากเกินไป ที่จะหาคำตอบที่ก้องอยู่ในหัวใจตนเอง เมื่อได้คำตอบแล้วแล้วจึงเริ่มลงมือทำด้วยความปรารถนาอันแรงกล้านั้น และอย่าลืมเปิดใจต่อความล้มเหลวและความผิดพลาด เพื่อที่เราจะได้เริ่มใหม่ด้วยบทเรียนที่ได้เรียนรู้มา . . แล้ววันหนี่งเราจะปลดล็อคธุรกิจที่เกือบจะสมบูรณ์แบบได้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเส้นทางที่เราออกแบบเอง . . อ้างอิง : หนังสือ the challenge for Africa ผู้เขียน Wangari Maathai /หนังสือ “ตั้งคำถามเพียง 1 ข้อ ก็พลิกจากตามขึ้นมานำ” (Start With Why) ผู้เขียน Simon Sinek / หนังสือ “ทำน้อยให้ได้มาก” (The Power of Less) ผู้เขียน Leo Babauta . . #itsyouYOU . . 🔹🔹 #DNAbySPU2 “COME JOIN THE RIDE” 🔹🔹 www.DNAbySPU.com Speaker #DNAbySPU2 https://goo.gl/XGaKHx . หมายเหตุ : 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.6 ต่อยอดจากการบรรยาย ของคุณคุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 Idols บุคคลสาธารณะ โดย A day 2551 ผู้มาปลุก Passion ให้ ‘เดินตามสิ่งที่เรารัก’ และสร้าง ‘ตำนาน’ เป็นของตัวเอง #Speaker #DNAbySPU 25 March 2017 . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com |
DNAbySPUหลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม Archives
June 2019
Categories |