DNA by SPU
  • Home
  • ​Speaker
  • สมัคร #DNAbySPU รุ่นที่ 7
  • Alumni's Opinions
  • DNA JOURNAL
  • INFOGRAPHIC
  • #MottoTH
  • Privacy Policy
  • BLOG DNA7bySPU

#DNAJOURNAL2 #DNABYSPU2 #EP2 Think outside the box “คิดนอกกรอบ เพื่อเห็นโลกใหม่”

10/2/2017

1 Comment

 
Picture
Picture
​#DNAjournal2 #EP2
Think outside the box “คิดนอกกรอบ เพื่อเห็นโลกใหม่”
.
.
"ดร.เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน" อาจารย์แพทย์ นักจิตวิทยา และนักเขียน ผู้ริเริ่มแนวความคิดเรื่อง Lateral Thinking (การคิดนอกกรอบ) และได้พัฒนาต่อเนื่องเป็นแนวคิดที่เรียกว่า "Six Thinking Hats (กระบวนการคิดแบบหมวกหกใบ) ได้กล่าวถึงความคิดสร้างสรรค์ว่า  
.
.
“ความคิดสร้างสรรค์เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของการคิดที่มีอยู่ในศาสตร์ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเงิน การตลาด แรงงานสัมพันธ์ การวิจัยและการแก้ปัญหา การวางแผน ฯลฯ ดังนั้นความเชื่อที่ว่า การคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องของศิลปะ เท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก”
.
.
ความคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบจะนำไปสู่นวัตกรรมและการค้นพบวิถีทางแก้ปัญหาใหม่ๆ ถ้าหากไม่เกิดความคิดนอกกรอบก็ย่อมจะไม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ และ เทคโนโลยีต่าง ๆ ในโลกก็คงจะไม่ก้าวหน้าอย่างที่เป็นอยู่ 
.
.
หลายองค์กรทราบดีว่า ในยุคสมัยนี้องค์กรไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ หรือต้านทานกระแสน้ำของความเปลี่ยนแปลงได้เลย และความคิดสร้างสรรค์เปรียบเสมือนกุญแจที่จะนำไปสู่นวัตกรรมและการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ จึงได้มีนโยบายสนับสนุน การ ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนและองค์กรเพื่อสร้างสรรค์งานให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อที่จะก้าวไปสู่คำว่า  “องค์กรแห่งนวัตกรรม” 
.
.
.
หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “นิ้วกลม” ที่มาเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ที่จับต้องไม่ได้และเป็นสิ่งที่ไกลตัวสำหรับคนที่ไม่คุ้ยเคยให้มาเป็น “ความรู้สึก” ที่ทุกคนสามารถเชื่อมโยงและสัมผัสได้
.
.
เพราะทุกคนล้วนติดอยู่ใน “กรอบความคิด” โดยที่ไม่รู้ตัว และกรอบความคิดจะปิดตาท่านไว้ ไม่ให้มองเห็นความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือต้องเรียนรู้เสียก่อน ว่ากรอบประกอบไปด้วยด้านไหนบ้าง ? 
.
.
เมื่อท่านรู้ถึงด้านต่างๆ ของกรอบความคิดแล้ว ท่านจะสามารถทลายกรอบความคิด ได้ด้วยคำพูดเพียงแค่คำเดียว เป็นคำพูดที่แสนเรียบง่ายแต่ทรงพลัง นั่นคือการตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว
.
.
ด้านที่ 1 คือ “ความพึงพอใจ” เมื่อเราสิ้นสุดความคิดที่คำว่าดีแล้ว โดยธรรมขาติสมองของเราจะหยุดการทำงานทันที ดังนั้นเราจึงควรขยายระยะเวลาการใช้ความคิดออกไปอีกหน่อย ด้วยการตั้งคำถามต่อเนื่องว่า ดีแล้ว...หรือยัง ? เพื่อบังคับให้ทิศทางของความคิดพุ่งเป้าไปที่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ
.
.
ด้านที่ 2 คือ “มุมมอง”  เมื่อเรามีมุมมองแค่ด้านเดียว เราจะเห็นโลกในแง่มุมที่จำกัด แต่ถ้าเราขยับตัวและยืนมองสิ่งๆนั้นในองศาที่ต่างไป  เราจะมีมุมมองอีกด้าน เช่นไฟแช็คถ้าในสายตาของคนที่อยู่ในเมือง อาจจะเหมือนไร้ค่า แต่ถ้าไปอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ไฟแช็คอันเดียวกันนั้นจะเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้
.
.
ด้านที่ 3 คือ “ชื่อ” เพราะเมื่อเราได้ยินชื่อ สมองของท่านจะดึงภาพของชื่อนั้นออกมาโดยอัตโนมัติ  เช่น “เก้าอี้” ภาพจำคือวัตถุสำหรับรองนั่งที่ต้องมีสี่ขา แต่ถ้าเป็นวัตถุรองนั่งที่มีห้าขาเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นและเสริมความมั่นคง ท่านจะเรียกว่าสิ่งนั้นว่าเก้าอี้หรือไม่ ?
.
.
ด้านที่ 4 คือ “ความรู้” อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์กล่าวว่า “ท่านไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ถ้าท่านใช้ระบบความคิดเดียวกับที่สร้างปัญหานั้นขึ้นมา” ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาขึ้น ท่านลองไปดูงานของอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ดูซิ ท่านอาจจะเจอวิธีการที่คาดไม่ถึงก็ได้ เช่นถ้าท่านมีปัญหาเรื่องสต้อกสินค้าคงค้าง ลองไปดูวิธีบริหารสต้อกของร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ 
.
.
ด้านที่ 5 คือ “ความเชื่อมโยง”  บางสิ่งทีต่างกันเมื่อท่านมองหาความเหมือนของสิ่งที่ต่างกัน แล้วนำมาเชื่อมโยงกัน จะเกิดสิ่งมหัศจรรย์ เช่น Post it คือการเชื่อมโยงกันระหว่างการและกระดาษจดขิ้นเล็กๆ
.
.
ด้านที่ 6 คือ “ประสบการณ์” เพราะประสบการณ์คือบ่อเกิดของความคิด ถ้าท่านอยากจะมีความคิดที่หลากหลาย ท่านควรทำสิ่งที่ท้าทายโดยการเดินออกไปนอกความสนใจของตนเอง เพื่อหาเลนส์สายตาใหม่ๆ เช่นทำกิจกรรมแปลกๆ อ่านหนังสือผู้หญิงทั้งๆที่ตัวท่านเองเป็นผู้ชาย ดูหนังหรืออ่านหนังสือแนวที่ไม่คาดคิดมาก่อน 
.
.

เป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่สรรหาคนเก่ง ๆ มาอยู่ในองค์กรแล้วไม่ได้ส่งเสริมให้คนในองค์กรได้เกิดความคิดสร้างสรรค์เพื่อมาใช้ในการพัฒนาหรือสร้างนวัตกรรม
.
.
ดังนั้นท่านที่เป็นผู้นำขององค์กรควรตั้งคำถามกับกรอบข้างต้นเพื่อท้าทายและเพิ่มศักยภาพให้คนในองค์กรของท่าน มีสภาวะของความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

#itsyouYOU  
.
.
หมายเหตุ
1. #DNAjournal2 จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU2
2. ข้อมูล EP.2 ต่อยอดจากการบรรยายของ จาก คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “นิ้วกลม” ที่มาเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ที่จับต้องไม่ได้และเป็นสิ่งที่ไกลตัวสำหรับคนที่ไม่คุ้ยเคยให้มาเป็น “ความรู้สึก” ที่ทุกคนสามารถเชื่อมโยงและสัมผัสได้

#Speaker #DNAbySPU2 31 September 2017
.
.
จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU
www.DNAbySPU.com
ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
Picture
Picture
1 Comment
นายวิเชียร ประเสริฐวณิช link
10/3/2017 01:00:18 am

เป็นบทความที่ดีมาก หากมีบทความทีดีแบบนี้อีก โปรดส่งมาให้อ่าน เสมอๆ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

Reply



Leave a Reply.

    DNAbySPU

    หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม
    ​ทางความคิด

    สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

    www.DNAbySPU.com
     089-4883655

    Archives

    June 2019
    May 2019
    April 2019
    March 2019
    February 2019
    January 2019
    November 2018
    October 2018
    September 2018
    August 2018
    July 2018
    June 2018
    May 2018
    April 2018
    January 2018
    December 2017
    November 2017
    October 2017
    September 2017

    Categories

    All

    RSS Feed

Location

Contact Us

หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรมทางความคิด (DNAbySPU)
สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เลขที่ 2410/2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม 
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
EMAIL : dnabyspu@gmail.com
TEL:
คุณลภัสรดา โกมุทพงศ (อุ้ม)  โทร: 089-4883655
  • Home
  • ​Speaker
  • สมัคร #DNAbySPU รุ่นที่ 7
  • Alumni's Opinions
  • DNA JOURNAL
  • INFOGRAPHIC
  • #MottoTH
  • Privacy Policy
  • BLOG DNA7bySPU