DNA by SPU
  • Home
  • ​Speaker
  • สมัคร #DNAbySPU รุ่นที่ 7
  • Alumni's Opinions
  • DNA JOURNAL
  • INFOGRAPHIC
  • #MottoTH
  • Privacy Policy

#DNAJOURNAL4 #EP5 บริหารแบรนด์เฉกเช่นบริหารความสัมพันธ์มนุษย์

2/24/2019

0 Comments

 
Picture
Picture

#DNAjournal4 #EP5

บริหารแบรนด์เฉกเช่นบริหารความสัมพันธ์มนุษย์   

.

.

ยุคนี้เป็นยุคสมัยที่ไม่ว่าจะซื้อของหรือหาของมาขายก็ง่ายพอกัน ดังนั้นในสมัยที่ใครๆ ก็สามารถขายของได้ ท่านจะสร้างความแตกต่างได้อย่างไร ?

.

.
​
นั่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ “แบรนด์” เป็นกลไกสำคัญของความสำเร็จ เพราะในกระบวนการ Blind test ลูกค้าแทบจะบอกไม่ได้เลยว่าแต่ละสินค้า มีความแตกต่างกันในด้านใด ? แต่เมื่อไหร่ที่กลุ่มตัวอย่างแค่เห็นแบรนด์แว้บเดียวก็รู้สึกถึงความต่างได้ทันที

.

.

แล้ว “แบรนด์” คืออะไร ? ถ้าถอดความตามพจนานุกรมแล้ว คำว่าแบรนด์เป็นภาษาต่างประเทศ เป็นการแปลมาจากคำว่า ตรา สัญลักษณ์ ในภาษาไทย ซึ่งรวมไปถึงรูปแบบ สี ตัวอักษรและบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นคำว่าแบรนด์คงไม่ได้หมายถึงสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเท่านั้น แต่คงแปลว่า “ความทรงจำ” มากกว่า

.

.

ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาที่ท่านรู้สึกไม่สบายปวดเนื้อเมื่อยตัว ทำไมท่านถึงเดินไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล ? เพราะท่านมีความทรงจำว่าคุณหมอมีความรู้และเชี่ยวชาญในชีววิทยาและศาสตร์การใช้ยา จนสามารถวินิจฉัยและจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการของท่านได้

.

.

ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและ Social Media ที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกือบทุกศาสตร์ในโลกต้องเปลี่ยนแปลงไป เพื่อไม่ให้สูญหายไป ไม่เว้นแม้แต่วิธีคิดในการบริหารแบรนด์

.

.

ในสมัยก่อนตอนที่สื่อหลักเช่น โทรทัศน์ วิทยุและสิ่งพิมพ์ครองโลก การจะผลิตโฆษณาเพื่อการสื่อสารแบรนด์แต่ละชิ้นต้องใช้ขั้นตอนและเวลา ซึ่งขั้นตอนของการเสียเวลาเกือบทั้งหมดอยู่ที่การอนุมัติ ตรวจแล้วตรวจอีกไล่จากเจ้าหน้าที่ไปถึงผู้บริหาร ตรวจจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีจุดผิด ถึงจะให้อนุมัติให้ออกอาร์ทเวิร์คได้

.

.

ในสมัยก่อนทำได้เพราะการจะออกสื่อแต่ละครั้งต้องใช้เวลาจองสื่อ ผลิต ถ่ายทำ ตัดต่อ ทุกขั้นตอนต้องทำอย่างดี แต่สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะการที่อุปกรณ์ผลิตสื่อทุกอย่างมาอยู่บนมือถือสมาร์ทโฟน ทำให้ความเร็วมีความสำคัญกว่าคุณภาพ

.

.

ข่าวฮอตในนาทีนี้อีก 15 นาทีต่อมาก็ไม่ฮอตแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์ในการแย่งชิงพื้นที่ข่าวที่ดีที่สุดคือ “นำกระแสนั้นมาให้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์” และหากแบรนด์ใดมีความสามารถในการผสมเรื่องราวของตนเองเข้ากับกระแสได้เร็วกว่า สนุกกว่า สร้างสรรค์กว่า ก็ย่อมเป็นผู้ชนะในสนามแข่งความเร็วแห่งนี้

.

.

แต่การล้อกับกระแสด้วยความรวดเร็วก็มักจะมีข้อผิดพลาดตามมา ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ผิด ภาพไม่ชัด ตัดต่อไม่เนียน ลงวันที่หรือรายละเอียดไม่ครบถ้วน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับทีมการตลาดในสมัยก่อน แต่ในวันนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะเพียงแค่ยอมรับ ก้มหัวและกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ ชาวเน็ตก็พร้อมจะให้อภัยแล้ว

.

.

แง่มุมในการบริหารแบรนด์เปลี่ยนไปแม้แต่ภาษาที่ใช้ แรกเริ่มเดิมทีแบรนด์ต้องใช้ภาษาที่เป็นทางการดูเท่ห์ๆ คมๆ โทนเสียงหล่อสวย จนหลายครั้งสร้างความอึดอัดและน่ากลัวเพราะสุภาพเกินมนุษย์ แต่ตอนนี้เพจที่ได้รับความนิยมคือเพจที่ใช้ภาษาเฉพาะกลุ่ม จิกกัดให้พอแสบคันแต่ไม่ถึงขั้นพูดจาหยาบคาย

.

.

นั่นเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่า “ลูกค้ามองแบรนด์เสมือนมนุษย์คนหนึ่ง” ที่มีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่มีแต่เหตุผลและไร้อารมณ์ความรู้สึก ประกอบกับ Social Media ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อกับมนุษย์ด้วยกัน แสดงว่าการที่เขาเป็นเพื่อนกับแบรนด์ก็แสดงว่าเขาต้องการความสัมพันธ์ฉันท์มนุษย์

.

.

ดังนั้นถ้าแบรนด์มีตัวตนใน Social Media ก็ควรปฎิบัติตนเหมือนสิ่งมีชีวิต ที่รู้จักเห็นอกเห็นใจลูกค้า ไม่ใช่ทำตัวเหมือนจักรกลที่ไร้ชีวิตที่ทุกอย่างต้องทำตามกฏเพียงอย่างเดียว

.

.

#itsyouYOU

.

.

หมายเหตุ
1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU
2. ข้อมูล EP5 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณมัญฑิตา จินดา ผู้อำนวยการฝ่าย Digital Marketing Workpoint Entertainment

.

.

#Speaker #DNA4bySPU 26 January 2019

.

.
​
จัดทำโดยหลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU
www.DNAbySPU.com
ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
Picture
Picture
0 Comments

#DNAJOURNAL4 #EP4 ดำดิ่งไปในจุดอ่อน จนกว่าจะพบจุดแข็ง

2/17/2019

0 Comments

 
Picture
Picture

#DNAjournal4 #EP4 

ดำดิ่งไปในจุดอ่อน จนกว่าจะพบจุดแข็ง 

. 

. 

ทุกคนทราบดีว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยก้าวไกลกว่าญี่ปุ่นเมื่อสมัยก่อน มีฐานเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก มีจำนวนคนที่มณฑลหนึ่งของเขามีเกือบเท่ากับเราทั้งประเทศ มีวัฒนธรรมที่ทั้งโลกต่างยกย่อง มีนักกีฬาที่ใครๆ ก็ชื่นชม 

. 

. 

แต่คำถามที่น่าสนใจคือ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้จีนยิ่งใหญ่ ? อะไรทำให้ไส้เดือนที่เพิ่งโผล่พ้นดินเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กลายเป็นมังกรทรงอำนาจที่สร้างความเกรียงไกรไปทุกที่ทั่วโลก ? 

. 

. 

ปัจจัยที่ทำให้ประเทศจีนยิ่งใหญ่ ไม่ใช่อำนาจทางทหาร ไม่ใช่จำนวนคน ไม่ใช่แผ่นดินสินแร่ ไม่ใช่ทรัพย์ในดินสินในน้ำ หาใช่อะไรที่เป็นจุดแข็งของประเทศเขาเหมือนที่เราทุกคนเข้าใจ 

. 

. 

เพื่อจะตอบคำถามนี้ขอย้อนไปในอดีตอันไกลโพ้นก่อน คงมีน้อยคนที่รู้ว่าจีนเคยเป็นชาติแห่งการประดิษฐ์คิดค้น นักประวัติศาสตร์คนสำคัญพบว่ามีสิ่งประดิษฐ์ 4 อย่างที่ถูกคิดค้นขึ้นในแผ่นดินจีน และเป็นต้นขั้วของเทคโนโลยีทั้งหลายที่ทำให้โลกมาถึงทุกวันนี้ 

. 

. 

4 สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่นั้นคือ กระดาษ เทคนิคการพิมพ์ ดินปืน และเข็มทิศ กระดาษและเทคนิคการพิมพ์ ทำให้องค์ความรู้ในโลกเผยแพร่ส่งต่อให้กันได้ ดินปืนทำให้เกิดสงครามในเขตแดนจนกลายเป็นการรวมประเทศ เข็มทิศทำให้มนุษย์เดินทางท่องทะเลข้ามโลกได้โดยไม่ต้องอดตายอยู่กลางมหาสมุทร 

. 

. 

ในเมื่อประเทศจีนสามารถคิดค้นสิ่งยิ่งใหญ่ที่ขยับเขยื้อนโลกออกมาได้ แต่ทำไมการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญของโลกไม่ได้เกิดที่จีนเลย ? 

. 

. 

คำตอบของคำถามอยู่ในประวัติศาสตร์ ภาพที่เราคุ้นชินกันในหนังจีน คือบัณทิตออกจากบ้านไปสอบจอหงวน ซึ่งเป็นการท่องจำวรรณกรรม เขียนเรียงความและแต่งบทกลอน 

. 

. 

บางท่านที่คุ้นเคยกับประเทศจีนคงนึกออกลางๆ ว่า ภาชนะแต่ละตัวในภาษาจีน จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกับท่าทางของคนและสัตว์ ซึ่งนั่นเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าประเทศจีนเก่งในด้านภาษาศาสตร์และศิลปะ แต่ไม่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประเทศจีนทราบจุดอ่อนนี้ดีจึงทุ่มสรรพกำลังให้ชาวจีนเก่งเรื่องนี้ที่สุด ซึ่งก็ทำได้ดีจนหนังฝรั่ง สร้างภาพจำให้กับคนทั่วโลก โดยการให้บทบาทกับคนจีนเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ไม่ก็เป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีความคิดอ่านที่เข้าถึงได้ยาก ซึ่งพวกเราคงผ่านตากันมาแล้ว 

. 

. 

จีนซุ่มพัฒนาเรื่องนี้มาตลอดอย่างเงียบๆ จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่นับได้ว่าเป็นการ “เบิกเนตร” ชาวจีนอย่างแท้จริง คิอวันที่แชมป์โลกโกะพ่ายแพ้ให้กับสมองกล Alpha go โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ต้นแบบจาก Google 

. 

. 

ตอนนั้นผู้บริหารของทาง Google คงคิดจะโชว์ผลงานให้คนทั่วโลกและนักลงทุนได้เห็นศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ การแสดงครั้งนั้นโด่งดังไปทั่วโลกก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นหยุดโลก แย่งชิงพื้นที่ข่าวได้เล็กๆ น้อยๆ ถ้าเปรียบเทียบก็ยังสู้การเปิดตัวประเทศเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่ได้ 

. 

. 

แต่หารู้ไม่ว่าการแสดงครั้งนั้นได้หยุดสายตา 280 ล้านคู่ในประเทศจีน และหนึ่งในนั้นคือสายตาของท่านประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของประเทศจีน ท่านรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้คล้ายๆ กับเรื่องราวในประวัติศาสตร์จีน ที่ตอนนั้นจีนไม่เก่งวิทยาศาสตร์ ทำให้ประเทศอื่นแซงหน้าไปทำการปฎิวัติอุตสาหกรรมได้สำเร็จ 

. 

. 

ท่านผู้นำไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้อีกเป็นครั้งที่สอง โดยเฉพาะในสมัยที่ท่านกุมบังเหียนประเทศ ท่านผู้นำจึงใคร่ครวญ พิจารณาและวาดฝันว่าจะเป็นอย่างไร ? เมื่อ AI และ Big data กลายเป็นทรัพยากรสมัยใหม่ในโลก มีค่ามากกว่าทองคำ น้ำมันและถ่านหิน โดยทั้งหมดต้องตอบคำถามสำคัญคือ จะนำมันมาใช้ได้อย่างไร ? 

. 

. 

ทุกอย่างตกผลึกเป็นแผนการใหญ่ “AI 2030” เพราะท่านผู้นำ รัฐมนตรีและคณะทำงานคิดมาอย่างดีแล้วว่า AI นั้นสามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและการปกครอง ประเทศจีนจึงทุ่มทุกสรรพกำลังที่มีเพื่อดึงดูด Start up และบุคคลหัวกะทิมาจากประเทศต่างๆ รวมถีงส่งเยาวชนจีนไปศึกษาเรื่องนี้ที่ต่างประเทศ และเรียกกลับมารับใช้บ้านเกิดในเวลาที่สมควร 

. 

. 

จะเห็นได้ว่า “แผนการใหญ่ AI 2030” แตกหน่อมาจากวัฒนธรรมหยิน-หยาง ที่สื่อสารว่าในขาวมีดำ ในร้อนมีเย็น ในจุดแข็งมีจุดอ่อน แต่จุดอ่อนไม่ใช่จุดอ่อนตลอดไป ถ้าเรามองว่าเป็นจุดจุดนั้น เป็นสิ่งที่รอการพัฒนาและเสริมประสิทธิภาพได้ 

. 

. 

จุดที่อ่อนที่สุดก็จะกลายเป็นจุดที่แข็งที่สุดได้นั่นเอง 

. 

. 

#itsyouYOU 

. 

. 

หมายเหตุ 
1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 
2. ข้อมูล EP4 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณอาร์ม ตั้งนิรันดร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
ผู้เขียนหนังสือ "CHINA 5.0 : สีจิ้นผิง เศรษฐกิจยุคใหม่และแผนการใหญ่ AI" นับเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ 
 
. 

. 

#Speaker #DNA4bySPU 26 January 2019 

. 

. 

จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU 
www.DNAbySPU.com 
ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
Picture
0 Comments

#DNAjournal4 #EP3 future is now ?

2/11/2019

0 Comments

 
Picture
Picture
#DNAjournal4 #EP3 

​
FUTURE IS NOW ?


.

. 

คงไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า ทุกภาคส่วนของโลกใบนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี 

.


. 

เทคโนโลยีรุ่นที่สี่หรือ 4th Generation (4G) กำลังจะผ่านไปและมีเทคโนโลยีรุ่นที่ 5 หรือ 5th Generation เข้ามาเขย่าสังคมโลก ถีงแม้ชื่อรุ่นจะต่างกันแค่ 1 รุ่น แต่ความเร็วนั้นแตกต่างจากรุ่นที่สี่ถึงประมาณ 30-100 เท่าเลยทีเดียว 

.

.
 

ความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ประโยชน์ไม่ใช่แค่การอัพรูปใน Social Media หรือดาวน์โหลดคลิปจาก Youtube ได้เร็วขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ประโยชน์ที่แท้จริงคือทุกอุปกรณ์ในโลกนี้จะสามารถพูดคุยกันได้ หรือที่เรียกว่า “Internet of Things” 

.


. 

ยุค Internet of Things คือช่วงเวลาที่อุปกรณ์ต่างๆ จะไม่ต้องถูกสั่งงานได้โดยมนุษย์อย่างเดียวอีกต่อไป ตู้เย็นที่บ้านจะสามารถสั่งไข่ไก่มาเติมให้เต็มตู้ได้เอง Tablet จะสั่งยานยนต์ไร้คนขับให้ออกมารับเจ้านาย วิศวกรโรงงานที่อาศัยอยู่กรุงเทพสามารถสั่งปิดเครื่องปรับอากาศที่เปิดทิ้งไว้ที่โรงงานสาขาเชียงใหม่ได้ คุณหมอที่โรงพยาบาลสามารถวินิจฉัยอาการคนไข้ในพื้นที่ห่างไกลได้ รัฐบาลและกสทช. เตรียมความถี่ไว้พร้อมแล้ว กลุ่มนายทุนหลายรายก็เตรียมสินค้าในคลังแล้วรอแค่ไฟเขียวอย่างเดียว 

.


. 

เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าด้วยสปีดที่ไวเหลือเชื่อและวันพรุ่งนี้ก็จะเร็วขึ้นไปอีกแบบเท่าทวี มนุษย์ใช้งานเทคโนโลยีเพื่อสร้างประโยชน์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต การทำธุรกิจหรือการบริหารจัดการเพื่อดูแลตนเอง แต่เทคโนโลยีสำคัญที่สุดใช่หรือไม่ ? 

.


. 

เทคโนโลยีถูกสร้างขึ้นมาบนโลกโดยมีจุดประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ถ้าเทคโนโลยีสูงขึ้นความเหลื่อมล้ำก็น่าจะลดลงตามจุดประสงค์ที่มันถูกคิดขึ้นมา แต่ในความเป็นจริงทำไมความเหลื่อมล้ำยังคงมีอยู่ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะในสังคมไทยแต่มีทุกหัวระแหงของสังคมโลก 

.


. 

อุปสรรคสำคัญที่สกัดกั้นเป็น กขค หรือ ก้าง ขวาง คอ ให้สังคมโลกไม่ก้าวไปสู่ความเท่าเทียมมีด้วยกัน 3 ปัจจัย ดังนี้ 

.


. 

ก= กฎหมาย ภาครัฐออกกฎหมายมาด้วยความตั้งใจที่ดี หวังจะควบคุมกฏเกณฑ์ทุกอย่างให้เป็นไปตามระเบียบ หารู้ไม่ว่ากฏหมายมีหน้าที่อีกอย่างคือคุมกำเนิด คุมกำเนิดผู้ประกอบการรายใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นมา 

.


. 

ประเทศเกาหลีใต้เป็นตัวอย่างที่ดี เมื่อ 30 ปีที่แล้วประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศยากจนที่ผ่านศึกสงครามแยกดินแดนมา อย่าว่าแต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเลย แม้แต่จะหาของกินให้อิ่มท้องก็ยากแล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ ภาครัฐเลยตัดสินใจลบกฎหมายหลายมาตราออก เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแข่งขันได้ 

.


. 

การตัดสินใจดังกล่าวสร้างผลสืบเนื่องให้เกาหลีใต้พัฒนาจากหน้ามือเป็นหลังมือในเวลาไม่ถึง 30 ปี 

.


. 

ข = แข่งขัน การที่ธุรกิจจะเติบโตได้ แรงบันดาลใจที่ดีที่สุดคือการแข่งขัน เพราะไม่รู้ว่าคู่แข่งขันจะแซงหน้าเราเมื่อไหร่ เราเลยไม่สามารถหยุดวิ่งได้ 

.


. 

Google Facebook Line Lazada คือตัวอย่างของกลุ่มทุนต่างชาติที่ได้ประโยชน์ในเชิงตัวเลขจากการทำธุรกิจในประเทศไทย แต่กลับไม่ได้จ่ายภาษีเพื่อตอบแทนแผ่นดินสักบาท หรือถ้าจ่ายก็น้อยมากจนไม่มีนัยยะสำคัญ ถ้าการแข่งขันเอื้อประโยชน์ต่อบางกลุ่ม ถ้ากฏกติกาไม่เท่าเทียม มีแต้มต่อให้กับผู้แข่งขันบางคน ใครล่ะอยากจะมาลงสนามเพื่อชิงชัย ? 

.


. 

ค = คน เพราะเทคโนโลยีถูกใช้งานโดยคน ดังนั้นสิ่งที่ควรพัฒนาหาใช่เทคโนโลยีไม่ แต่เป็นความคิดของคนที่เป็นเจ้านายของอุปกรณ์เหล่านั้น เพราะนักกีฬาชั้นยอดต่อให้ใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีคุณภาพ ก็ยังมีฝีมือจัดจ้านอยู่ 

.


.
 

เรื่องที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ก็ให้เป็นหน้าที่ของภาครัฐ แต่เราสามารถพัฒนาในปัจจัย ค = คนและความคิดได้ ดังนั้นเราต้องไม่หยุดนิ่ง ก้าวไปข้างหน้า เรียนรู้เทคโนโลยีในระดับผู้ใช้งานแต่ไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด 

.

.
 

เทคโนโลยีไม่ได้กำหนดอนาคต คนต่างหากเป็นผู้กำหนดอนาคต อยู่ที่เราแล้วว่าจะกำหนดอนาคตอย่างไร 
.


. 

#itsyouYOU 

. 

.


หมายเหตุ 
1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 
2. ข้อมูล EP.3 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด กรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรรมการคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 

.


. 

#Speaker #DNA4bySPU 26 January 2019 

.
​

.
 

จัดทำโดยหลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU 
www.DNAbySPU.com 
ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำและเป็น DNA ของตัวเอง
Picture
Picture
0 Comments

#DNAJOURNAL4 #EP2 “อนาคตศาสตร์”

2/4/2019

0 Comments

 
Picture
Picture
#DNAjournal4 #EP2 

“อนาคตศาสตร์” 

. 

. 

ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้ง คือช่วงเวลาที่ยากที่สุดและง่ายที่สุดในการทำธุรกิจ 

. 

. 

ที่บอกว่าง่ายที่สุดคือ สมัยก่อนกว่าจะผลิตสินค้าออกมาแต่ละชิ้นเพื่อจัดจำหน่าย ต้องมีกระบวนการที่ยุ่งยาก การประสานงานแต่ละขั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน ต้องใช้เอกสารมากมายในการดำเนินการ ซึ่งส่งผลไปถึงค่าใช้จ่ายมหาศาล แต่สมัยนี้การหาสินค้ามาขายนั้นก็ไม่ได้ยากไปกว่าการซื้อสินค้ามาใช้เลย 

. 

. 

รวมไปถึงการผลิตชิ้นงานสื่อเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ สมัยก่อนอุปกรณ์ผลิตสื่อมีราคาแพงและถูกใช้โดยคนบางกลุ่มเท่านั้น ทำให้พวกเขาสามารถเรียกค่าส่วนต่างที่มีราคาแพงในการผลิต แต่ตอนนี้อุปกรณ์ผลิตสื่อได้ถูกสรุปรวมมาอยู่ใน Smart Phone หมดแล้ว เคล็ดวิชาของคนโปรดักชั่น เช่น มุมกล้อง การถ่ายทำจนถึงการตัดต่อ ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะแทบจะทั้งหมดมีสอนอยู่ใน Youtube 

. 

. 

การสื่อสารผ่านทาง Mass Media ถ้าเมื่อก่อนต้องกำเงินเดินไปที่สื่อหลักๆ วางเงินจองและรอให้ถึงคิวที่จะได้ออกอากาศ และแน่นอนพื้นที่สื่อไม่ใช่พื้นที่ราคาถูก เวลาแค่15 วินาทีกลับมีราคาค่างวดที่แพงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ระดับกลางๆ 1คัน แต่ตอนนี้โลกเรามีสิ่งที่เรียกว่า Social Media ที่จะทำให้การสื่อสารมีต้นทุนถูกได้อย่างไม่น่าเชื่อ และถ้าท่านฝีมือเจ๋งจริง ทำคอนเทนต์ที่โดนจริงๆ คนทั่วประเทศจะรู้ถึงการดำรงอยู่ของท่าน โดยไม่ต้องอาศัยต้นทุนแม้แต่บาทเดียว 

. 

. 

สิ่งต่างๆ ข้างต้นคือข่าวดี เพราะอินเทอร์เน็ตเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถอยู่ในวงการธุรกิจได้ ไม่ปิดกั้นเหมือนสมัยก่อนที่คนทำธุรกิจมีแต่กลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่ร่ำรวยอยู่แล้ว 

. 

. 

แต่ข่าวดีก็ต้องมาคู่กับข่าวร้าย ยุคนี้เป็นยุคที่มีความยากทีสุดในการทำธุรกิจ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะผู้ประกอบการรายใหม่จะเกิดขึ้นมาและ Disrupt เราเมื่อไหร่ ? ดังที่นักการทหารชื่อดังกล่าวในยุคสงครามโลกครั้งที่สองไว้ว่า “ผู้ก่อการร้ายที่น่ากลัวที่สุดคือผู้ก่อการร้ายที่เรามองไม่เห็น เพราะเมื่อเรามองไม่เห็นเราจะออกแบบมาตรการรับมือได้อย่างไร ?” 

. 

. 

เรื่องเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด ลองสังเกตได้จากการอัพเดทแต่ละครั้งของอัลกอริทึมใน Social Media อย่าง Facebook ที่ใน 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีการ Update ทั้งแบบใหญ่และแบบย่อยมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง ในเวลา 2-3 ปี มนุษย์อาจไม่มีความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่กับเทคโนโลยีที่ห่างกัน 2-3 ปีไม่สามารถนำมาเทียบกันได้เลย 

. 

. 

และเชื่อแน่ว่าในการ Update แต่ละครั้ง จะมีกลุ่มคนที่สามารถเรียนรู้และประยุกต์ใช้สิ่งเหล่านั้นมาเป็นแต้มต่อทางธุรกิจได้ แต่เรามีความเข้าใจเทคโนโลยีในระดับ “ผู้ใช้งาน” ไม่ได้ดำดิ่งลงลึกเหมือน “ผู้เชี่ยวชาญ” ถ้าเช่นนั้นนั้นเราจะต้องปฎิบัติตัวอย่างไรในยุคสมัยที่รักษาธุรกิจไว้ยากที่สุด ? 

. 

. 

ขออนุญาตมอบคาถาคุ้มกันในยุคสมัยใหม่ให้ท่านคือ “คิดใหม่ และ ทำใหม่” 

. 

. 

“คิดใหม่” ในที่นี้หมายถึงการขยายกรอบความคิดและมองไปที่นอกกรอบความสนใจของตัวเองบ้าง เพราะถ้าเรามัวแต่จ้องมองอยู่กับสิ่งที่เราสนใจ จะทำให้เรามีมุมมองแคบ ไม่รู้ว่าโลกไปถึงไหนและไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างไร 

. 

. 

“ทำใหม่” ไม่ได้หมายถึงการคิดผลิตสินค้าหรือบริการใหม่ เพราะมันต้องอาศัยต้นทุนมหาศาล แต่หมายความถึงการทดลองกระบวนการใหม่ๆ วิธีคิดใหม่ๆ หรือหารูปแบบรายได้ใหม่ๆ ในสินค้าเดิม 

. 

. 

คิดใหม่เช่น “ธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสาร” ที่มีราคาค่าเครื่องที่แสนแพงแต่ผลิตสินค้าที่ราคาถูกแสนถูก วงจรทั้งหมดไม่ได้เป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งอย่าว่าแต่จะสร้างผลกำไรเลย แค่จะขายให้ได้สักเครื่องก็เป็นไปได้ยากแล้ว 

. 

. 

ผู้บริหารตระหนักถึงจุดอ่อนข้อนี้ดี จะให้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลงก็คงไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เขาจึงตัดสินใจหันหัวเรือจากธุรกิจ “ขายขาด” มาเป็น “การเช่าซื้อ” โดยการออกระบบเช่าให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถนำเครื่องถ่ายเอกสารไปตั้งที่แหล่งชุมชนได้ แล้วก็แบ่งผลกำไรกัน ซึ่งวิธีการนี้มีข้อดีอยู่ 2 ข้อ นอกจากบริษัทสามารถปล่อยสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายทางการตลาดแล้ว บริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรได้จากการขายอะไหล่และบริการตรวจเช็ค ดูแลรักษาด้วย
 
. 

. 

“คิดใหม่ ทำใหม่” แน่นอนว่าคาถานี้ไม่ใช่คาถาที่มาจากผู้มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ที่จะทำให้ธุรกิจท่านปลอดภัยโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่สามารถทำให้ท่านฉุกคิดอะไรได้ในแง่มุมว่า "เมื่อเราหยุดวิ่งเมื่อใด รู้ตัวอีกทีเราก็อาจโดนเเซงหน้าเสียเเล้ว" 
 
. 

. 

#itsyouYOU 

. 

. 

หมายเหตุ 
1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 
2. ข้อมูล EP.2 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณ จิรยศ เทพพิพิธ Founder and CEO at Infofed.com มาบรรยายและแชร์มุมมองในการให้เราก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ กระแส E-sport ที่กำลังเริ่มต้นและอีกไม่นานจะทะยานด้วยความรวดเร็ว 

. 

. 

#Speaker #DNA4bySPU 19 January 2019 

. 

. 
​
จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU 

www.DNAbySPU.com 

ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง

Picture
Picture
0 Comments

    DNAbySPU

    หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม
    ​ทางความคิด

    สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

    www.DNAbySPU.com
     089-4883655

    Archives

    June 2019
    May 2019
    April 2019
    March 2019
    February 2019
    January 2019
    November 2018
    October 2018
    September 2018
    August 2018
    July 2018
    June 2018
    May 2018
    April 2018
    January 2018
    December 2017
    November 2017
    October 2017
    September 2017

    Categories

    All

    RSS Feed

Location

Contact Us

หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรมทางความคิด (DNAbySPU)
สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เลขที่ 2410/2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม 
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
EMAIL : dnabyspu@gmail.com
TEL:
คุณลภัสรดา โกมุทพงศ (อุ้ม)  โทร: 089-4883655
  • Home
  • ​Speaker
  • สมัคร #DNAbySPU รุ่นที่ 7
  • Alumni's Opinions
  • DNA JOURNAL
  • INFOGRAPHIC
  • #MottoTH
  • Privacy Policy