#DNAjournal3 #EP3
. . “ของขวัญไม่ใช่แค่เรื่องของการให้... แต่เป็นเรื่องใจที่เราส่งถึงกัน” ในวันเฉลิมฉลองความสำเร็จของคนสำคัญ ในงานเทศกาลต่างๆ หรือแม้แต่ในโอกาสพิเศษต่างๆ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่เป็นการรวมตัวของคนรู้จัก การเสิร์ฟอาหารรสเลิศและความบันเทิงที่เต็มรูปแบบแล้ว ยังมีสิ่งเล็กๆน้อยๆสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เจ้าของงานรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจพองโตได้อย่างน่าอัศจรรย์และยิ้มแก้มปริด้วยความประทับใจ สิ่งเล็กน้อยเหล่านั้นยังช่วยสื่อสารให้เจ้าของงานได้เข้าใจและซึมซับว่าช่วงเวลานั้นไม่ใช่ช่วงเวลาธรรมดาคือช่วงเวลาที่พิเศษจริงๆ นั่นก็คือ “ของขวัญ” . . การให้ของขวัญเป็นการแสดงความยินดี เปรียบเสมือนเป็นบรรทัดฐานทางสังคมของผู้คนในหลากหลายวัฒนธรรม และดูเหมือนว่าธรรมเนียมของการห่อของขวัญนั้นว่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์เราทำกันมาเนิ่นนานจนฝังรากลงไปในจิตใต้สำนึกของคนเราแล้ว . . ในเมืองจีนยุคโบราญสมัยราชวงศ์ซ่ง หรือประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 2 มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ว่า ชาวจีนในสมัยนั้นนิยมนำเงินหรือของมีค่าบรรจุไว้ในซองหรือห่อด้วยกระดาษสีแดงเพื่อมอบให้แก่กันในเทศกาลสำคัญ เช่นในวันปีใหม่ วันเกิด ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นซองอั่งเปาที่ทุกท่านคุ้นชินกันในวันตรุษจีน . . ข้ามไปที่ทวีปยุโรปในยุควิคตอเรีย วัฒนธรรมการห่อของขวัญนั้นจะถูกจำกัดให้อยู่ในแวดวงของชนชั้นสูงและราชวงศ์เท่านั้น ในเวลาต่อมา ประมาณศตวรรษที่ 18 เมื่อรัฐบาลของประเทศอังกฤษได้มีการพัฒนาระบบที่เรียกว่าระบบไปรษณีย์ (Postal system) ระบบนั้นทำให้ค่าใช้จ่ายในการส่งจดหมายและพัสดุถูกลง ทำให้ผู้คนส่งของขวัญให้กันมากขึ้น แต่ตอนนั้นคุณภาพของกระดาษห่อของขวัญและหีบห่อยังไม่ดีนัก วัฒนธรรมการส่งของขวัญจึงยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก . . ในศตวรรษที่ 20 มีพี่น้องคู่หนึ่งเล็งเห็นว่าวัฒนธรรมที่ยังไม่แพร่หลายนี้ อาจจะสามารถสร้างเป็นธุรกิจได้ จึงจัดตั้งบริษัท Hallmark cards ในสหรัฐ เพื่อผลิตกระดาษคุณภาพดีสำหรับห่อของขวัญ รวมไปถึงอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ เช่น ริบบิ้นโบว์ และการ์ดอวยพรในโอกาสพิเศษ ทำให้วัฒนธรรมการมอบของขวัญได้แพร่กระจายไปสู่ทั่วโลก . . การห่อของขวัญเพื่อมอบให้กันนั้น ดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่สิ้นเปลืองและไม่มีประโยชน์เสียเท่าไหร่ เพราะยังไงผู้รับก็ต้องลอกเปลือกนอกออกเพื่อให้เห็นของที่อยู่ข้างในอยู่แล้ว แต่สิ่งเล็กๆน้อยเหล่านั้นแหละที่จะทำให้สิ่งของที่สุดแสนธรรมดา กลายเป็นสิ่งของที่สุดแสนพิเศษ และสร้างความประทับใจให้ผู้รับอย่างไม่รู้ลืม . . แล้วจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ธุรกิจในความดูแลของท่าน จะสามารถทำให้ลูกค้าประทับใจได้ทุกครั้งเมื่อได้รับสินค้าและบริการ เปรียบประดุจช่วงเวลาประทับใจเมื่อลูกค้าได้รับของขวัญ ? . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากครูหมู อัญชลี ศรีไพศาล ที่ปรึกษาให้กับไลฟ์สไตล์แบรนด์ อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์แฟชั่น Lifestyle Designer และนักเขียนอิสระ มาเล่าถึงความรู้และมุมมองของ “การห่อของขวัญ” ที่จะสร้างความดีใจ ความสงสัย และความตื่นเต้น ระคนผสมกันไปอย่างพร้อมเพรียงกันในช่วงเวลาที่ผู้รับได้รับมอบ . . ความหมายดั้งเดิมของการส่งของขวัญ คือ “การสื่อความรู้สึกไปสู่อีกฝ่ายหนึ่งในรูปของสิ่งของ” ดังนั้นการห่อของขวัญก็เช่นเดียวกัน การห่อของขวัญไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งของหรือการให้ แต่คือ “การห่อหุ้มความรู้สึกให้หัวใจที่เราส่งถึงกัน” . . การห่อของขวัญที่ดีไม่ใช่การห่อสินค้าอย่างละเอียดอ่อนและบรรจงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คือการ “ห่อใจ” ห่อความรู้สึกของผู้มอบส่งไปด้วย ดังนั้นในขั้นตอนแรกที่ควรจะลงมือทำ คือเอาใจของเราออกไปและใส่ใจของเขาเข้ามา เพื่อ “เข้าใจ” ก่อนว่าผู้รับรู้สึกอย่างไร ? หากเราเข้าใจความรู้สึกเขาดีแล้ว ก็มีโอกาสสูงที่การห่อของขวัญชิ้นนั้น จะทำให้ผู้รับรู้สึกยิ้มแก้มปริหลังจากที่ได้รับมอบ . . ใครเป็นคนกำหนดกันล่ะว่าของขวัญจะมอบให้กันได้ในงานเทศกาลหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น ? แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราริเริ่มสร้างโอกาสพิเศษนั้นขึ้นมาให้ทุกวันเป็นวันพิเศษทั้งของเรา และที่สำคัญของลูกค้าเพื่อดำรงความสัมพันธ์ของทั้งสองฝั่งเอาไว้ . . อย่ายึดติดกับบรรทัดฐานว่าการห่อของขวัญนั้นจะต้องถูกจำกัดให้อยู่ในรูปแบบของรูปทรงที่เป็นกล่องเพียงอย่างเดียว มนุษย์เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีพลังความคิดสร้างสรรค์อยู่ในตนเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่จะนำพลังงานเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ เราไม่ต้องประดิษฐ์คิดค้นอะไรใหม่ ขอเพียงมองในแง่มุมใหม่ๆ ก็จะได้มาซึ่งรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเจ และซ้ำกับของที่คุ้นเคย . . ชาร์ลส์ ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ได้กล่าวในทฤษฎีวิวัฒนาการว่า “ผู้ที่จะอยู่รอดได้ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด” ดังนั้นในช่วงเวลานี้ เราไม่สามารถแข็งข้อเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางลมพายุได้อีกแล้ว เราต้องทำตัวให้เหมือนต้นไผ่ที่ลู่ลม ที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนอย่างเร็วไว แต่คงไว้ซึ่งตัวตน . . #itsyouYOU . . Reference : https://tinyurl.com/y7249hm6 . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.3 ต่อยอดจากการบรรยายของครูหมู อัญชลี ศรีไพศาล ที่ปรึกษาให้กับไลฟ์สไตล์แบรนด์ อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์แฟชั่น Lifestyle Designer และนักเขียนอิสระ มาเล่าถึงความรู้และมุมมองของ “การห่อของขวัญ” ที่จะสร้างความดีใจ ความสงสัย และความตื่นเต้น ระคนผสมกันไปอย่างพร้อมเพรียงกันในช่วงเวลาที่ผู้รับได้รับมอบ . . #Speaker #DNA3bySPU 31 March 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage, Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
0 Comments
Leave a Reply. |
DNAbySPUหลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม Archives
June 2019
Categories |