#DNAjournal3 #EP7
Live สาระ . . ข้อมูลจาก Statista บริษัทสถิติออนไลน์ระบุว่า ในปี 2559 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยมีมูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 2560 มูลค่าดังกล่าวอยู่ที่ 2.8 ล้านล้านบาท และจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ในทุกปี ตัวเลขดังกล่าวได้ส่งผลให้ให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดออนไลน์ใหญ่ที่สุดและมีศักยภาพที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ . . ปัจจัยที่เอื้ออำนวยและส่งเสริมให้ E-commerce มีขนาดใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นไปได้หลายประการ เช่น การส่งเสริมให้จ่ายเงินผ่านระบบ Online Payment ที่ทำให้การชำระค่าสินค้าเป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปราศจากซึ่งค่าธรรมเนียม รวมถึงระบบการขนส่ง (Logistic) ที่มีให้เลือกแบบส่งข้ามวัน หรือส่งด่วนภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการเติบโตของ Social Commerce . . Social Commerce คือ การทำธุรกิจผ่าน Social Media อย่างเช่น Facebook Instagram Line และ Twitter เป็นธุรกรรมเชิงพาณิชย์ที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ความนิยมดังกล่าวสอดคล้องกับสัดส่วนจำนวนผู้ใช้งาน Social Media ของไทยที่ค่อนข้างสูง โดยกรุงเทพฯ นับว่าเป็นเมืองที่มีจำนวนผู้ใช้งาน Facebook มากที่สุดในโลก จากการสำรวจของ PWC พบว่าสัดส่วนของผู้บริโภคออนไลน์ชาวไทยที่ซื้อสินค้าผ่าน Social Media มีอยู่สูงถึง 51% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกที่ 16% . . พฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce และ E-commerce ก็มีความแตกต่างกัน โดยผู้ซื้อสินค้าผ่าน Social Platform มักถูกสร้างแรงจูงใจในการซื้อสินค้าจากการพบสินค้าโฆษณาบน Social Media ที่ใช้ประโยชน์จาก “ระบบแนะนำสินค้า” (Recommendation System) ในการแสดงผลสินค้าที่ผู้บริโภคแต่ละรายมีแนวโน้มสนใจมากที่สุด . . ขณะที่ผู้ซื้อสินค้าบน e-Market Place Platform มักมีความต้องการสินค้าอยู่ก่อนแล้วจึงเลือกหาสินค้า ทำให้สินค้าที่ผู้บริโภคซื้อผ่าน Social Media ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีมูลค่าไม่สูงนัก และไม่ต้องการบริการหลังการขายหรือรับประกันสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เสื้อผ้าและรองเท้า ขณะที่สินค้าที่ต้องมีการวางแผนก่อนซื้อ อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน มักจะได้รับความนิยมบน e-Market Place Platform เสียมากกว่า . . และเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 Facebook สื่อสังคมที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก ได้ทำการออกฟีเจอร์ Facebook Live ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเอากล้องที่ติดมากับสมาร์ทโฟน “ถ่ายทอดสด” ชีวิตตัวเองให้กับเพื่อนๆ ได้รับชม ซึ่งในตอนแรกนั้น Facebook ได้แจ้งว่าระบบ Live มีไว้ให้ผู้ใช้ได้แบ่งปันช่วงเวลาประทับใจเช่น งานแต่งงาน วันเกิด เพื่อให้เพื่อนและคนที่มีความหมายได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ธรรมชาติของการค้าขายคือ “ที่ไหนมีคน ที่นั่นย่อมมีเงิน” จึงมีผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยเชื่อมโยงกับการทำธุรกิจ และผลผลิตนั้นก็คือ การ Live ขายสินค้าซึ่งเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างสูง . . การ Live ช่วยให้สินค้ามีพลังได้อย่างมหาศาล เป็นเหมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างสินค้าของท่านกับลูกค้าเป้าหมายได้ เพราะเวลาที่ท่านถ่าย Live VDO จะมีการแจ้งเตือนในฟีดข่าวของผู้ติดตามเพจให้ได้รับรู้ และถ้าท่าน Live ให้น่าสนใจและสนุกสนานน่าติดตาม จะสามารถดึงดูดให้ผู้ชมนั้นมี “ปฏิสัมพันธ์” (Engagement) เช่น การโต้ตอบ แสดงความเห็น หรือสอบถามได้เลยทันที ลูกค้าสามารถถามคำถามได้แบบเรียลไทม์ และได้คำตอบกลับไปทันที ไม่ต้องมารอคำตอบนานหลายวัน เหมือนส่งคำถามหรือความเห็นไปใน inbox หรือ email ลูกค้าส่วนมากจึงชื่นชอบการชม Live มากกว่าเข้าไปสั่งสินค้าในเพจ . . ถึงแม้การ Live จะทำให้การแสดงสินค้ามีประสิทธิภาพสูงและยังได้รับประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ Social Media แต่คำว่า “Live” นั้นกลับเป็นคำใหม่ที่เพิ่งถูกสร้างขี้น จึงมีหลายต่อหลายท่านยังไม่ค่อยเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การจะทำ “Live” นั้นมีขั้นตอนอย่างไร? และจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณอรรถวิท ปัญญาภิญโญผล ผู้ก่อตั้ง B.A.S. ACADEMY ที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยีและสอดประสานเข้ากับองค์ความรู้ที่มี เพื่อที่จะเปลี่ยนนักเรียนที่ไม่ชอบวิชาชีวะให้มาตกหลุมรักวิชาชีวะอีกครั้ง . . ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีการสอน (Education Tech) สิ่งแรกที่เกิดขึ้นในโลกคงจะเป็น “ชอล์กและกระดานดำ” สื่อกลางที่ช่วยให้คุณครูสามารถถ่ายทอดจินตภาพออกมาและส่งไปถึงนักเรียนได้ อย่างไรก็ตาม โลกใบนี้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าเช่นเดียวกับเทคโนโลยีในการสอน ถ้าคุณครูไม่ปรับก็อาจถูกบังคับให้เปลี่ยน และเมื่อกระแสของโลกใบนี้มุ่งหน้าไปที่การถ่ายทอดสดหรือ “Live” แล้วทำไมคุณครูถึงไม่ลองใช้ประโยชน์จากวิทยาการนี้ล่ะ . . การ Live นอกจากช่วยทำให้คุณครูไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปสอนหน้าห้องตอนเจ็ดโมงเช้า ยังช่วยให้นักเรียนไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาเรียนที่โรงเรียน เพิ่มพลังสมาธิ สร้างความสะดวกสบาย และที่วิเศษที่สุดคือการ Live แต่ละครั้งยังช่วย เปิดโอกาสให้ผู้ที่ขาดทุนทรัพย์แต่มีความตั้งใจในการเสาะแสวงหาความรู้ สามารถเก็บเกี่ยวเคล็ดวิชาได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อลงทะเบียน โดยอาศัยแค่มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น . . ถ้ามองอย่างผิวเผิน การทำ Live นั้นเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อแย่งชิงพื้นที่สื่อจากคอนเทนท์ที่หลากหลายใน Social Media แต่โดยแท้จริงแล้ว กลับแฝงไปด้วยปรัชญาของหลักการขายที่ยิ่งใหญ่ถึง 2 ข้อด้วยกัน . . ข้อแรกคือ “การสร้างแบรนด์บุคคล” (Personal Branding) ศาสตร์สมัยใหม่ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางขั้นตอน 3 ข้อคือ “รู้จัก” (To know) “ชอบ” (To like) และ “เชื่อ” (To believe) ย้อนไปเมื่ออดีตหลายสิบปีที่แล้ว “การสร้างแบรนด์องค์กร” (Corporate Branding) มีความสำคัญต่อภาพลักษณ์ทางธุรกิจมาก แต่ในปัจจุบันนอกจาก Corporate Branding แล้ว นักธุรกิจชั้นนำหลายคนเริ่มเห็นความสำคัญของ Personal Branding มากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้นำศาสตร์นี้มาใช้ต่อยอดเพื่อสร้างฐานแฟนคลับและส่งต่อผู้คนไปยังธุรกิจหลักของเขา และสร้างกองทัพผู้ติดตามในกรณีที่เขาจะออกไปทำธุรกิจใหม่หรือขยายธุรกิจ เฉกเช่น ริชาร์ด แบรนสัน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หรือ แจ็ค หม่า . . ข้อที่สองคือ “การขจัดข้อโต้แย้ง” (Handing Objection) ซึ่งกระบวนการนี้มักจะเกิดในช่วงที่ลูกค้ามีความสนใจสินค้าแล้วแต่ยังไม่มั่นใจ 100 % จึงมีชุดคำถามเพื่อเสริมสร้างและประกันความมั่นใจ ซึ่งในภาษานักขายมักจะเรียกชุดคำถามเหล่านั้นว่า “ข้อโต้แย้ง” (Objection) นักขายหลายคนตีความว่าข้อโต้แย้งคือสัญญาณของการปฏิเสธ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นสิ่งธรรมดาที่นักขายจะต้องเจอและต้องรีบเคลียร์ให้หมดก่อนที่ลูกค้าจะเดินจากไป . . แล้วถ้าท่านขายสินค้าท่านจะสามารถทำ Live ได้หรือไม่ ? ไบรอัน เทรซี่ ผู้เขียนหนังสือธุรกิจมากกว่า 70 เล่ม กล่าวว่า “การทำการตลาดคือสิ่งที่ทำให้การขายไม่มีความจำเป็น” ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของท่านที่จะต้องหา “ปัญญา” ในสินค้าที่สามารถขจัดข้อโต้แย้งในสินค้าของท่านได้เหมือนในงานแสดงสินค้า เช่น ถ้าท่านขายเสื้อผ้าแฟชั่น แล้วลูกค้าสงสัยว่าเสื้อตัวนี้ใส่แล้วจะสวยไหม? ก็ให้นางแบบสวมให้ดูเพื่อเป็นแรงจูงใจในการซื้อ หรือ ถ้าท่านขายกีต้าร์และลูกค้าถามว่าตัวนี้เสียงดีไหม ก็ให้นักดนตรีมาเล่นให้ฟัง เมื่อท่านสามารถทลายกำแพงข้อโต้แย้งออกไปจนหมดสิ้น ก็จะไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปสู่ขั้นตอนปิดการขาย . . และที่สำคัญอย่าลืมหาวิธีสร้างภาพจำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นลูกค้าคนพิเศษที่ท่านรอคอย . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.7 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณอรรถวิท ปัญญาภิญโญผล ผู้ก่อตั้ง B.A.S. ACADEMY ที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยีและสอดประสานเข้ากับองค์ความรู้ที่มี เพื่อที่จะเปลี่ยนนักเรียนที่ไม่ชอบวิชาชีวะให้มาตกหลุมรักวิชาชีวะอีกครั้ง . . #Speaker #DNA3bySPU 28 April 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
0 Comments
Leave a Reply. |
DNAbySPUหลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม Archives
June 2019
Categories |