#DNAjournal4 #EP6 รู้อะไรไม่สู้...รู้จักตนเอง . . โลกยุคใหม่ที่เทคโนโลยีเป็นฟันเพืองสำคัญที่ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากความเจริญด้านวัตถุที่จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วแล้ว วิธีคิดหรือนิยามความสำเร็จก็แปรเปลี่ยนไปด้วย . . ในโลกยุคเก่าการที่ผู้คนและธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยปัจจัยด้านเวลา ผสมคลุกเคล้ากับความมุมานะ ตั้งใจ อดทน และรอคอยเมื่อถึงเวลาอันสมควร ถึงจะได้รับโอกาสให้ยืนอยู่บนเวทีท่ามกลางแสงไฟ และถ้าผู้คนเหล่านั้นเป็นของจริง เขาจะวิ่งไปถึงเส้นชัย . . ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีคิดและสิ่งที่ดี เพราะความสำเร็จคงไม่มาถึงถ้าไร้ซึ่งความพยายาม แต่ในโลกยุคใหม่อาจจะไม่ทันการ เพราะมีเศรษฐีรุ่นใหม่ที่สร้างตัวตนได้ในเวลาไม่กี่เดือน สร้างความร่ำรวยได้ในเวลาไม่กี่ปี ทั้งๆ ที่ในโลกยุคก่อนอาจต้องใช้เวลาครึ่งค่อนชีวิตถึงจะผลิกชีวิตได้ คำถามคือพวกเขาทำได้อย่างไร ? . . หากท่านมีเวลาอยากให้ลองศึกษาวิธีคิดของพวกเขาดู โดยจับแต่ละคนมายืนหน้ากระดานและลองศึกษาชีวิตพวกเขาแต่ละคนอย่างเจาะลึก แล้วท่านจะพบกับ “สูตรสำเร็จ” ที่คนสำเร็จมีคล้ายกัน . . คำว่าสูตรสำเร็จในที่นี้ไม่ใช่สูตร 1 2 3 เหมือนคอร์สมหัศจรรย์ที่ทุกท่านเคยเห็นกันทั่วไป แต่ประกอบด้วยสิ่งธรรมดาที่นิทานอีสปสอนเรามา คือ ความตั้งใจ และพรแสวง และอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในโลกยุคนี้คือ “การรู้จักตนเอง” . . คนประสบความสำเร็จยุคใหม่ที่เป็นไอคอนของยุคสมัย ล้วนแต่รู้จักตนเองทั้งสิ้น และรู้ที่ทางของเขาว่าจะสร้างผลงานได้อย่างไร ? เหมือนนักแสดงภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ดที่รู้คาแรคเตอร์ของตนเอง และหยั่งรู้โดยธรรมชาติว่า บทบาทไหนควรจะรับเล่น และบทบาทใดจะดีกว่าถ้าตัวเขาไม่ได้แสดง . . เมื่อใดที่ท่านพาตัวเองไปยืนอยู่บนเวทีที่สมควร ท่านจะมีพลังงานสร้างสรรค์อย่างที่สุด ทำงานได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มีความทุ่มเทเต็มร้อย และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แต่ถ้าท่านยืนอยู่ในจุดที่ไม่เหมาะสมกับความสามารถท่าน แม้ปัญหาเท่าขี้ผง ท่านก็รู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่ . . ทุกท่านทราบดีว่า สตีฟ จ๊อบส์ เป็นคนคิดสินค้าที่เปลี่ยนโลก แต่จากปากคำของคนที่ทำงานร่วมกับเขา สตีฟ จ๊อบส์ มีความรู้เกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีในระดับผู้ใช้งานเท่านั้น เป็นที่น่าสงสัยว่าหัวเรือใหญ่ของบริษัทสินค้าเทคโนโลยีกลับไม่ค่อยจะรู้เรื่องเทคโนโลยีได้ยังไง ? . . คำตอบอาจเป็นได้ว่า เขารู้ดีว่าเขาควรยืนอยู่ที่ใดและทำอะไร ? เขารู้ดีว่าเขาจะสร้างผลงานได้จากจุดแข็งเท่านั้น ป่วยการและเสียเวลาที่จะสร้างผลงานจากจุดอ่อน เขาจึงลงมือบริหารบริษัทและตัวตนโดยการไม่ไปนำทีมโปรแกรมเมอร์ให้คิดตามเขา แต่เขาตั้งคำถามให้โปรแกรมเมอร์คิดว่าจะแก้ปัญหานั้นได้ยังไง ? . . หลายคนคิดว่ารู้จักตนเองดีแล้ว แต่ส่วนมากมักคิดผิด เพราะท่านไม่มีทางเห็นตัวเองได้ว่าท่านเก่งในด้านใด เสมือนท่านไม่ได้ส่องกระจกจะไม่มีทางเห็นเงาตนเอง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ ฟังความเห็นจากคนรอบข้าง และเก็บเอามาคิดว่าคนรอบข้างท่านให้ความเห็นเชิงเยินยอหรือพูดความจริง . . ท่านเป็นนักทำหรือนักวางแผน ? ท่านเป็นผู้ที่เรียนรู้ด้วยการอ่านหรือการฟัง ? ท่านสร้างผลงานได้ดีเมื่อท่านทำงานคนเดียวหรือทำเป็นทีม ? เมื่อท่านฟังจากคนอื่นและเฝ้าสังเกตตนเองจนสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ . . ท่านจะตอบคำถามที่ใหญ่ที่สุดได้ว่า “ที่ทางของท่านในโลกใบนี้คือที่ใด ?” . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP6 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ตลาดดอทคอม TARAD.COM นักลงทุน และนายกสมาคม E-COMMERCE ที่มาชวนคิดให้เราใส่ใจในการทำ Business plan สิ่งที่หลายคนมองข้ามไป แต่เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ . . #Speaker #DNA4bySPU 26 January 2019 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
0 Comments
Leave a Reply. |
DNAbySPUหลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม Archives
June 2019
Categories |