#DNAjournal3 #Special Episode
“สร้างอนาคตประเทศชาติด้วยมือของเรา” . . ท่านว่าสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยตอนนี้เป็นอย่างไร ? . . ท่านมองว่าธุรกิจของท่านอยู่ในดินแดนพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ? . . ท่านว่าประเทศไทยเรากำลังก้าวไปข้างหน้าสู่ยุค 4.0 หรือกำลังถอยหลังสู่ยุค 0.4 ? . . ท่านว่าประเทศไทยอยู่อันดับต้นๆ หรือท้ายๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ? . . และทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ? . . คำถามข้างต้นมี 5 ข้อด้วยกันแต่มีจุดเริ่มต้นจากข้อสุดท้าย เมื่อท่านสามารถตอบข้อสุดท้ายได้ คงไม่ใช่ยากที่จะตอบคำถามใน 4 ข้อแรก . . ท่านมาที่นี่เพื่อเรียนรู้ขัดเกลาวิชาความรู้และความสามารถที่จะนำพาธุรกิจที่ท่านดูแลไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิม ท่านมาดูดซับความเชี่ยวชาญของวิทยากรเพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวท่าน . . แสดงว่าท่านยอมรับและเห็นด้วยว่าตัวท่านและธุรกิจของท่านยังขาดความสมบูรณ์พร้อม ท่านเชื่อว่ายังมีพื้นที่ที่ว่างอยู่ มีศักยภาพที่แอบซ่อนเร้นอยู่ และเชื่อเหลือเกินว่าสิ่งเหล่านั้นสามารถพัฒนาได้ . . กระแสคลื่นลมของดิจิทัลได้เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ในโลก ไม่มีใครปฎิเสธความจริงข้อนี้ได้ ท่ามกลางกระแสลมดิจิทัลที่พัดผ่าน ท่านจะเลือกสร้างกำแพงหรือเลือกที่จะสร้างกังหัน ? . . “ความฝัน” นั้นเป็นสิ่งวิเศษ เป็นนามธรรมที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา แต่สามารถผลักดันให้เราหาเหตุผลสนับสนุนที่จะปฎิบัติงานอย่างที่ไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อยได้ และเมื่อท่านลงมือออกตามความฝันแล้ว ความฝันจะนำพาให้ท่านพบกับ “เป้าหมาย” แต่คำถามคือท่านยึดเกี่ยวในสิ่งนั้นแน่นพอหรือยัง ทุกช่วงเวลาที่มีคนลงมือทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คนรอบข้างมักมองว่าสิ่งที่เขาทำมันค้านสายตาและคาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ แต่เขากลับทำได้ มีผู้คนมากหน้าหลายตาจากหลายวงการไม่ซ้ำสาขาถามหาเคล็ดลับความสำเร็จของเขา ทุกคนคิดว่าคำตอบของเขาจะต้องเป็นหลักคิดที่ชาญฉลาดและล้ำค่า แต่เขากลับให้คำตอบที่ธรรมดาสุด เรียบง่ายสุด แต่ทรงพลังสุด คือ “ผมไม่ได้คิด ผมแค่ลงมือทำ” . . ความคิดนอกกรอบนั้นอาจจะดูซับซ้อนและเป็นไปได้ยาก เพราะกรอบความคิดของเราถูกสร้างขี้นจากอายตนะทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สื่อธรรมชาติที่เชื่อมต่อร่างกายคนกับสิ่งเร้าภายนอก แต่เมื่อท่านเชื่อในสิ่งที่ตามองไม่เห็น สดับรับฟังในเสียงที่คนอื่นไม่สนใจ ดมกลิ่นที่คนอื่นไม่คิดจะดอมดม ชิมรสชาติที่หลายคนหวาดกลัว สัมผัสกับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และรู้สึกให้มากกว่ารับรู้ แล้วท่านจะทราบว่าการคิดออกจากกรอบนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเลย . . คนๆ หนึ่งสามารถเติบใหญ่ได้ตามกลไกการจัดระเบียบของธรรมชาติ แต่ไม่สามารถไปสู่จุดที่ยิ่งใหญ่ได้ถ้าไร้ซึ่งการบูรณาการและขาดเพื่อนร่วมทางในเป้าหมายเดียวกัน ถ้าปราศจากสังคมที่ก้าวไปด้วยกัน เมื่อคว้าดวงดาวมาได้ จะมีใครที่จะร่วมยินดี . . เราเกิดเป็นคนไทย เรามีสายเลือดไทย เราควรตอบแทนผืนป่าที่เคยอาศัยร่มเงา ผืนน้ำที่เคยดื่มกิน แผ่นดินที่เคยหลับนอน เราทุกคนล้วนเป็นบุคคลที่สามารถนำพาประเทศไทยไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิมได้ ให้ชาวต่างชาติได้ยินชื่อเสียงประเทศไทย ให้ธงไตรรงค์โบกสะบัดอย่างยิ่งใหญ่บนแผนที่โลก . . อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่าไร ขอฝากความหวังไว้ในมือพวกท่าน . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. ข้อมูล special episode ต่อยอดจากปาฐกถาพิเศษของท่านกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และประธานคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์กรมหาชน) ที่กรุณาให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรวันปิดหลักสูตร DNA รุ่น 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม . . #Speaker #DNA3bySPU 9 June 2018 . . คิดอยู่นานว่าจะเขียนดีไหม เพราะปกติไม่ค่อยอยากเขียนอะไรหล่อๆลงในเฟซบุคเท่าไหร่ และถ้าเขียนอะไรยาวๆ พี่มาร์คก็บอกว่าคนคงไม่อ่าน แต่ช่วงนี้ความสุขมันเอ่อล้นมากจนอยากระบายออก . หลักสูตรนี้แรกเริ่มเดิมทีมีจุดกำเนิดมาจากคำว่า “วิกฤต” เพราะในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สังคมโลกได้เคลื่อนจาก “สังคมที่ขับเคลื่อนด้วยสื่อ” มาเป็น “สังคมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” ซึ่งส่งผลให้วิชาความรู้ที่เราศึกษามา เคล็ดวิชาที่เราเคยฝึกฝนมา วิธีการที่เราจำเพราะทำแล้วได้ผลมา ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อีกต่อไป . ตอนนี้เราเจอวิกฤตทางหน้าที่การงานที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ มีเรื่องธรรมดาหลายๆเรื่องกลับโด่งดังในเวลาข้ามคืน เหมือนมีแม่มดร่ายมนตราให้กลายเป็นเรื่องโด่งดัง แต่พอรุ่งเช้าพอมนต์คลายฤทธิ์ลง ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสนใจ ซึ่งนั่นหมายความว่า ชุดความคิดในตำราเล่มเดิมที่ถูกเขียนมาตั้งแต่ปลายยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ใช้ไม่ได้แล้วในวันนี้ และถ้าเราจะก้าวไปข้างหน้า เราต้องใช้ชุดความคิดใหม่ . พี่ตุ้มหนุ่มเมืองจันท์ (tag พี่ตุ้ม) เคยพูดไว้ว่า “ท่ามกลางกระแสลมผันผวนของวิกฤต บางคนสร้างกำแพง บางคนสร้างกังหัน” คำนี้ลึกซึ้งและกินใจ และชวนคิดต่อว่า เป็นไปได้ไหมที่เราจะไม่สร้างกังหันให้ตัวเอง แต่จะชวนคนอื่นมาสร้างกังหัน . แต่ความสามารถของไอซ์คนเดียวคงมีไม่พอที่จะบ่มเพาะให้คนอื่นสร้างกังหันได้ เพราะแต่ละคนแต่ละธุรกิจก็มีเรื่องราวหลากหลายและสไตล์เฉพาะที่ไม่เหมือนกัน ทุกคนรู้ดีว่าต้องคิดไปข้างหน้า แต่ถ้าคิดไปข้างหน้าแล้วมองไม่เห็นอะไร ทำไมไม่ลองคิดย้อนกลับหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า ? . ไอซ์จึงได้ส่งทำเนียบเชิญวิทยากรผู้คร่ำหวอดในสาขาต่างๆมา (tag วิทยากร) แต่ไม่ได้ให้มาสอนในคลาสประดุจนักเรียนอาจารย์ แต่ให้มาเล่าเหมือนเพื่อนชวนคุยว่า เคยผ่านอะไรมาบ้าง? เคยเจอวิกฤตไหน? แก้ไขปัญหาอย่างไร? มีประเด็นสำคัญที่ทำให้เรียนรู้ได้ไหม? ลองผิดลองถูกอะไรไปแล้วบ้างและผลลัพธ์เป็นอย่างไร ? . 20 วิทยากร 20 เรื่องราว อาจไม่ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม แค่คงมากพอที่จะทำให้นักเรียนปะติดปะต่อ ผสมผสาน เชื่อมโยงและกลั่นกรองเรื่องราวต่างๆ มให้เป็นเส้นทางตามแบบฉบับของตนเอง #itsyouYOU และเมื่อทุกคนสามารถค้นพบเส้นทางเฉพาะของตนเองได้ แล้วแชร์กันออกไป ให้ความรู้แลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกไป มันจะผลักดันให้สังคมก้าวไปข้างหน้า และเมื่อทุกภาคส่วนสังคมที่เป็นพื้นฐานของประเทศก้าวไปข้างหน้าแล้ว เป็นไปไม่ได้ว่าประเทศจะไม่ก้าวไปข้างหน้า และจะก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ไม่หันหลังกลับมาอีก . หลักสูตรนี้ไอซ์ไม่ได้ทำในฐานะของห้างร้านธุรกิจ แต่ทำในฐานะของอาจารย์ ไอซ์เข้าใจดีว่า “บริบทก็คือบทเรียน” และกองทัพเดินด้วยท้อง จึงเตรียมเมนู Street food ชื่อดังมาต้อนรับ เพราะคิดว่าท่านเป็นนักธุรกิจจะให้ไปต่อคิวชิมอาหารชื่อดังตามแหล่งท้องถนนก็ใช่ที่ จึงจัดร้าน Street food ชื่อดังมาบริการท่าน ต้องขอบคุณ...ด้วยนะ (tag ทีมงาน) . ถึงแม้ขึ้นชื่อว่าหลักสูตรแต่ก็ไม่มีใครบังคับว่าการหาความรู้จะสนุกไม่ได้ ต้องขอขอบคุณเกมส์ที่ช่วยสร้างสีสันให้ในห้องทุกครั้งที่สัมผัสไมค์ (tag เกมส์) . ขอบคุณ (tag กอลฟ) ที่ช่วยเก็บภาพสวยๆในห้องเรียน สิ่งที่กอล์ฟทำไม่ได้บันทึกแค่ภาพ แต่บันทึกความทรงจำไว้ ไม่ว่านานเท่าไหร่จะไม่ลืม (เนื้อเพลงอะไรซักอย่าง) . ขอบคุณทีมงานหลังฉากทุกคนมาก (tag ทีมสาวๆ) ทีมจัดการที่สุดยอดช่วยให้งานไหลลื่นได้โดยไม่มีสะดุด พี่ไม่ดุ แต่มองตาต้องมาหานะจ้ะ . ขอบคุณอุ้ม (tag คุณอุ้ม) คู่คิดและคู่ชีวิต เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้หลักสูตรนี้เกิดขึ้นมาได้ อยู่เคียงข้างกัน ดูแลกันไปตลอดนะ . ขอบคุณ ดร.รัชนีกร และพี่ฮั้ว (tag ทั้ง2 ท่าน) ที่มอบพื้นที่แห่งโอกาสนี้ให้ไอซ์ เด็กติดอ่างคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นอาจารย์ได้ หลักสูตรนี้อาจจะไม่ใช่หลักสูตรที่ดีที่สุด แต่ดีที่สุดเท่าที่ไอซ์จะทำได้ และจะต้องดียิ่งขึ้นไปอีก ไอซ์สัญญา . และสุดท้าย ขอบคุณนักเรียน #DNA3bySPU ทุกคนที่สละเวลาพักผ่อนอันมีค่าในบ่ายวันเสาร์ ถึง 13 สัปดาห์ ถึงแม้จะจบหลักสูตรแล้ว #เสาร์หน้ามันจะเหงาๆหน่อยแต่เราไม่ได้จากกันไปไหน เพราะเราทุกคนคือครอบครัวเดียวกันแล้ว #DNAfamily และเหมือนที่ครีมพูดไว้ (tag คุณครีม) “วันนี้แค่จากลา วันหน้าเราจะมาพบกันใหม่” ถ้ามีอะไรที่ไอซ์พอจะช่วยได้บอกได้เลย ยินดีช่วยเต็มที่ รักทุกคนเข้าแล้วและจะรักตลอดไป ขอบคุณจากหัวใจ ให้กับชาว DNA
0 Comments
#DNAjournal3 #EP22
Service Marketing การตลาดบริการ ที่เริ่มต้นจากความใส่ใจ . . ในปัจจุบันการตลาดบริการ “Service Marketing” เข้ามามีส่วนประกอบสำคัญในการสร้างแบรนด์ เพราะทุกวันนี้พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนไป สมัยก่อนสินค้าที่มีคุณภาพก็อาจจะสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ประกอบการได้ แต่สมัยนี้การมีสินค้าคุณภาพดีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป . . หลายธุรกิจมีการประยุกต์ใช้ Service Marketing ในทางสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ตัวสินค้าหรือบริการ เช่น ห้างสรรพสินค้าที่ออกบริการ Personal Shopper บริการให้คำปรึกษาและคำแนะนำด้านแฟชั่น การแต่งกายให้สอดคล้องกับบุคลิกภาพ รสนิยม อาชีพและชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่คิดค่าบริการ หรือโรงพยาบาลที่มีการบริการและการตกแต่งห้องพักในรูปแบบ “Hospitel” (Hospital + Hotel) เปรียบเสมือนโรงแรมที่น่าพักในวันหยุดพักผ่อน ตอบรับกระแส Medical Tourism หรือแม้แต่บริการด้านการเงินจากธนาคารที่จะมอบเอกสิทธิ์ต่างๆ ให้กับลูกค้ารายพิเศษ . . และมีหลายธุรกิจเช่นกันที่ไม่จำเป็นต้องใช้การบริการเป็นหลัก แต่ก็เลือกที่จะใช้การบริการเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เช่น บริษัท Kerry Express ที่ให้บริการจัดส่งสินค้าภายใน 1 วันและก่อนจัดส่งพนักงานจะต้องโทรไปหาผู้รับเพื่อถามว่าสะดวกรับสินค้าหรือไม่ ? รวมถึงการบริการก็ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยขายสินค้าให้ง่ายขึ้นด้วย เช่น การให้บริการเงินผ่อน การให้บริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน เป็นต้น . . การบริการนั้นนอกจากจะต้องอาศัยบุคลิกภาพที่เพียบพร้อมและความสามารถของบุคลากรในการให้บริการที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าขาดส่วนสำคัญที่สุดไปก็ คงเรียกว่า “การบริการที่เป็นเลิศ” ไม่ได้ แล้วสิ่งนั้นคืออะไร ? . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณกนกวรรณ กรรณิกา (คุณแป้ง) นักเรียน DNA รุ่นที่ 3 ที่จะมาทำให้เราเข้าใจวิธีการให้บริการที่ประทับใจในหัวข้อ "Service Marketing การตลาดให้ลูกค้ารัก" ในคลาส #DNAbySPU3.1 สำหรับชาว DNA โดยเฉพาะ จัดโดยนักเรียน DNA รุ่นที่ 3 . . หลักสำคัญที่สุดในการให้บริการคือ “ความใส่ใจในหัวใจของการเป็นมนุษย์” (Human Touch) เพราะแท้จริงแล้วคนไม่ได้ต้องการสินค้าหรือบริการ แต่โหยหา “สายสัมพันธ์” ในความเป็นมนุษย์ (Human Connection) . . มีลูกค้าหลายคนรู้สึกไม่พอใจที่จะต้องแจ้งปัญหาของสินค้าหรือบริการผ่านระบบบันทึกเสียงอัตโนมัติของ Call Center มีปัญญาประดิษฐ์มากมายที่สามารถให้บริการได้เหนือมนุษย์ เช่น Digital Signage ที่รวบรวมประวัติการซื้อสินค้าและนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสมได้ แต่ก็ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เท่ากับการที่พนักงานชงกาแฟสามารถจดจำชื่อและเมนูที่เราสั่งประจำได้ นั่นเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า มนุษย์ต้องการสายสัมพันธ์ขนาดไหน ? . . การบริการถึงแม้จะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ (Intangibility) ไม่ได้ส่งผลอย่างฉับพลันในวันนี้ แต่จะค่อยๆ สะสมชื่อเสียงในวันข้างหน้า คำถามสำคัญคือเราจะพัฒนาการบริการให้เป็นบริการที่ดีและประทับใจได้อย่างไร ตอบง่ายๆ ก็คือ เริ่มต้นจาก “ความใส่ใจ” เพราะการบริการนั้นเริ่มต้นที่หัวใจของคนและจบลงที่การกระทำของคน และเมื่อการกระทำของคนคนหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดออกไปอย่างน่าประทับใจ คนที่ได้รับบริการก็จะมีความรู้สึกประทับใจจนอยากที่จะบอกต่อ . . หากลูกค้าขอผ้าห่ม...อย่าลืมสังเกตอุณหภูมิและอาการของเขา หากน้องเด็กขอน้ำ...อย่าลืมหลอดและฝาปิดแก้วให้ไป หากมีคนขอเครื่องดื่ม...อย่าลืมถามคนข้างๆ ด้วย การคิดล่วงหน้าถึงความต้องการลูกค้า นอกจากจะทำให้ประหยัดเวลาในการให้บริการแล้ว ยังแสดงออกถึงความใส่ใจอีกด้วย . . และเมื่อท่านให้ใจลูกค้า ลูกค้าก็จะให้ใจแก่ท่านเช่นกัน . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.22 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณกนกวรรณ กรรณิกา (คุณแป้ง) นักเรียน DNA รุ่นที่ 3 ที่จะมาทำให้เราเข้าใจถึงวิธีการให้บริการที่ประทับใจในหัวข้อ "Service Marketing การตลาดให้ลูกค้ารัก" ในคลาส #DNAbySPU3.1 สำหรับชาว DNA โดยเฉพาะจั ดโดยนักเรียน DNA รุ่นที่ 3 . . #Speaker #DNA3bySPU 14July 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำและเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP21
Micro moment ช่วงเวลาเสี้ยววินาที แต่มีมูลค่ามหาศาล . . ในสมัยที่ธุรกิจใช้สื่อเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจชิ้นสำคัญในการผลักดันสินค้าจากโรงงานไปสู่ผู้บริโภค เรื่องราวของแคมเปญการตลาดในสมัยนั้นจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ก็มักจะพึ่งพาสัญชาตญาณของนักการตลาดอยู่เสมอ . . แม้ว่าศาสตร์การตลาดจะพยายามพัฒนาให้วิชาวิทยาศาสตร์มีบทบาทในสาขาธุรกิจ เช่น การทำ Focus Group เพื่อจะได้รู้ว่าผู้บริโภคตอบสนองอย่างไรก่อนที่แคมเปญจะออกไปในวงกว้าง แต่สุดท้ายคนที่กดปุ่มตัดสินใจว่าจะให้ไปหรืออยู่ ก็มักจะเป็นนักการตลาดที่จะต้องบนบานสานกล่าวก่อนเซ็นอนุมัติโครงการ . . ถ้าแคมเปญที่ออกไปประสบผลสำเร็จและสร้างยอดขายได้ก็รอดตัวไป นักการตลาดสามารถยิ้มได้อย่างสบายใจแล้วก็รอแคมเปญหน้าอย่างมีความสุข แต่ในโชคดีก็ย่อมมีโชคร้าย หลายครั้งที่ตลาดไม่ได้เป็นไปอย่างที่นักการตลาดพยากรณ์หรือคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบมหาศาลจนถึงขั้นต้องเดือดร้อนเก้าอี้สั่นคลอน . . การตลาดในอดีตแม้จะไม่ได้เป็นเรื่องของดวงหรือโชคชะตาอย่างเดียว แต่ก็อาศัย “ความน่าจะเป็น” (Probability) อยู่บ่อยครั้ง แต่การเข้ามาของอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนก็ทำให้อะไรอะไรก็เปลี่ยนไปไม่พ้นแม้แต่ในแวดวงการตลาด . . ในช่วงเวลานี้ เราสามารถลดโอกาสการผิดพลาดจากการคาดการณ์อนาคตที่ไม่แน่นอนได้ด้วยการใช้ “ข้อมูล” (Data) แต่การมีข้อมูลอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะคาดการณ์สิ่งต่างๆ ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า “Big Data” หรือข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการมีข้อมูลจำนวนมหาศาลเท่านั้น แต่หมายถึงการนำข้อมูลมหาศาลมาวิเคราะห์แนวโน้มและรูปแบบพฤติกรรม เพื่อป้องกันความล้มเหลวที่จะเกิดให้น้อยที่สุด . . การใช้ Big Data ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ แต่จริงๆ แล้วธุรกิจมีการนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา เช่น การทำ Feasibility Study เพื่อศึกษาแนวโน้มความเป็นไปได้ของโครงการ ก่อนที่จะนำเงินมาลงทุน หรือการทำ Research ทั้งด้านปฐมภูมิและทุติยภูมิ เพื่อศึกษา ค้นคว้า คาดการณ์ความเป็นไปของผู้บริโภค เพื่อคาดเดาทิศทางของแคมเปญที่จะเกิดขึ้นในปีต่อไป . . แต่เชื่อแน่ว่ามีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ได้ยินและคุ้นชินเรื่องความสำคัญของการใช้ข้อมูล แต่ยังมองภาพไม่ออกว่าจะนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างไร . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณณัฐภัทร อิทธิวรานุรักษ์ (คุณไกด์) นักเรียน DNA รุ่นที่ 3 ที่จะมาเชิญชวนให้เราตระหนักถึงประโยชน์จากการทำธุรกิจโดยอาศัยข้อมูล ในหัวข้อ "Kick start for Winning Digital Game" ในคลาส #DNAbySPU3.1 สำหรับชาว DNA โดยเฉพาะ . . มีนักวิชาการและนักการตลาดหลายท่านออกมาให้ความเห็นว่าผู้บริโภคในวันนี้มีความแตกต่างจากผู้บริโภคเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้ามองอย่างวิเคราะห์และเจาะลึก จะพบว่าจริงๆ แล้วผู้บริโภคไม่ได้เปลี่ยนไปแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบริบทสภาพแวดล้อม ซึ่งกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภค . . ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะค้นหาข้อมูลผ่านทางสมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์ และผู้บริโภคในยุคนี้มีความอดทนต่อสิ่งต่างๆ น้อยลง ถ้าต้องการอะไรก็คาดหวังว่าผู้ประกอบการจะตอบสนองทันที เมื่อแนวโน้มทั้งสองอย่างประกอบเข้าด้วยกัน Google จึงได้สังเคราะห์และเกิดเป็นแนวคิดที่ชื่อ Micro Moment ซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมกับ Consumer Journey ที่เปลี่ยนไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่ถูกสร้างมาให้ติดตัว . . Google ได้ให้คำนิยามพฤติกรรมทั้ง 4 รูปแบบ แบ่งเป็น “รู้” I want to know moments คือ ต้องการหาข้อมูลเพื่อจะซื้อสินค้าหรือบริการแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ “ไป” I want to go moments คือ การหาร้านค้าคู่แข่งที่อยู่ในบริเวณนั้นเพื่อเปรียบเทียบราคา “ทำ” I want to do moments จะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้ารู้สึกถึงปัญหาแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง จึงต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นคู่มือ How to หรือบริการจากมืออาชีพ และ “ซื้อ” I want to buy moments คือ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเพราะลูกค้าพร้อมจะซื้อสินค้าแล้ว เพียงแต่ว่าอาจต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก่อนที่จะไปชำระเงิน . . 4 สถานการณ์นี้ผู้ประกอบการไม่มีทางทราบได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหนและเมื่อไหร่? ซึ่ง Google ได้แนะนำมาตรการในการรับมือกับสมการดังนี้ คือ Be there อยู่ในที่ที่ลูกค้าต้องการอยู่ จะได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที Be useful ข้อมูลต้องมีประโยชน์ สร้างแรงบันดาลใจและไม่บีบบังคับจนเกินไป Be accountable การที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ทอดทิ้งลูกค้าหลังจากที่ลูกค้าได้จ่ายเงินไปแล้ว . . ธุรกิจที่มีความเข้าใจและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีในเวลาที่อารมณ์ของลูกค้าอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องการตอบสนองที่สุด สินค้าหรือบริการนั้นก็จะมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างแน่นอน . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.21 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณณัฐภัทร อิทธิวรานุรักษ์ (คุณไกด์) นักเรียน DNA รุ่นที่ 3 ที่จะมาเชิญชวนให้เราตระหนักถึงประโยชน์จากการทำธุรกิจโดยอาศัยข้อมูล ในหัวข้อ "Kick start for Winning Digital Game" ในคลาส #DNAbySPU3.1 สำหรับชาว DNA โดยเฉพาะ . . #Speaker #DNA3bySPU 14 July 2018 . . จัดทำโดยหลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำและเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP20
จินตนาการ IMAGINE . . ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ตลาดในประเทศจีนเปรียบเสมือนเหมืองเพชรขนาดใหญ่ที่ต้องตาต้องใจของธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการส่งออกเพื่อสร้างการขยายตัว นอกจากจะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีจำนวนประชากรมหาศาล ขนาดบ้านเค้าแค่จังหวัดเดียวก็เกือบเท่ากับคนในประเทศเราแล้ว คนจีนยังมีอำนาจการจับจ่ายอยู่ในอัตราสูง และรสนิยมการใช้ชีวิตของคนในประเทศจีนก็ใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ของบ้านเรา ด้วยปัจจัยทั้งหมดจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้ประกอบการไทยจึงตั้งเป้าส่งออกไปที่ตลาดประเทศจีน . . แต่ในความเป็นจริง มีผู้ประกอบการไทยที่มีสินค้าในเซ็กเตอร์ที่คนจีนให้ความสนใจ ส่งสินค้าไปทำตลาดที่ประเทศจีนแต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยสวยงามนัก อาจจะขายได้แค่รอบเดียวไม่มีใบสั่งซื้อซ้ำหรือการที่สินค้าโดนดองไว้ที่ตัวแทน ซึ่งการไม่ประสบความสำเร็จอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ปัจจัยด้านภาษี ปัจจัยด้านค่าเงินและการขนส่ง ปัจจัยด้านนโยบายส่งเสริมการขายระหว่างประเทศของภาครัฐ เป็นต้น แต่จากการสังเกตผู้ประกอบการไทยที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จส่วนมากมีรูปแบบความคิดที่คล้ายกัน คือ จินตนาการและคิดไปเองว่า “บ้านเค้าคงคล้ายกับบ้านเรา” . . การเจาะตลาดใหม่โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศนั้นมีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เราต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนก่อนหลายๆ มุมมอง ทั้งมิติการใช้ชิวิตและมิติพฤติกรรมในการจับจ่าย เพื่อจะได้นำข้อมูลมาเป็นหลักการ (Principle) ในการออกแบบกลยุทธ์ในการบุกตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เรามองเห็นว่าเป็นโอกาสอาจเป็นอันตรายที่ทำให้บริษัทประสบความล้มเหลวก็เป็นได้ . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจาก ได้รับเกียรติจาก ดร. ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ อาจารย์ประจำ สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA - Digital Network Advantage หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรมทางความคิด เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีพลวัตในยุคปัจจุบัน มาแบ่งปันเทคนิคที่ทำให้เราไม่หยุดแค่จินตนาการและเริ่มออกเดินทางบนเส้นทางของตัวเอง . . แน่นอนว่าคงไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้ แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการศึกษาพฤติกรรมและค้นคว้าหาข้อมูลของผู้บริโภคชาวจีน แม้ว่าการศึกษาหาข้อมูลเป็นเรื่องที่ดีและควรทำ แต่มันอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้เราคนนอกไปเข้าใจคนวงใน เพราะหลายอย่างยากจะอธิบายและยากที่จะเข้าใจ ทางที่ดีที่สุดคือ “ ใช้ชีวิตเสมือนคนจีน” เพื่อเรียนรู้วิธีคิดและรูปแบบพฤติกรรมของเขา โดยไม่ใช่แค่ “เห็นและรับรู้” แต่ต้องทำให้อินจน “รู้สึก”ได้ ชาวจีนนั้นมีพฤติกรรมการรับสื่อแบบไหน ใช้แพลตฟอร์มอะไร ภาษาสำนวนที่จะโดนใจกลุ่มเป้าหมายต้องมีรูปแบบอย่างไร และอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นไลฟ์สไตล์ของคนจีน ข้อมูลที่น่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้ แน่นอนว่าหาไม่ได้จากการท่องอินเทอร์เน็ต งานสัมมนาที่โรงแรมหรู หรือการทำวิจัยผู้บริโภคในห้องสี่เหลี่ยมที่นักวิจัยการตลาดจัดหาไว้ แต่หาได้จากการสังเกตชีวิตประจำวันของเขาในแต่ละวัน มองให้ลึกถึงพฤติกรรมที่แท้จริงของเขา . . Patricia Moore ดีไซเนอร์ด้านผลิตภัณฑ์อายุ 26 ปี เธอกับทีมงานได้รับโจทย์ออกแบบตู้เย็นเพื่อเจาะกลุ่มบ้านผู้สูงอายุ การออกแบบแต่ละครั้ง สิ่งที่เธอและทีมได้ระดมสมองออกมานั้นมีรูปลักษณ์ที่สวยสง่า รสนิยมล้ำเลิศ ถึงแม้จะถูกใจกลุ่มนักออกแบบ แต่เธอยังมองว่าผลงานของเธอยังขาดความเข้าใจ เธออยากรู้ว่าคนที่อายุ 85 ปีที่ร่างกายเสื่อมสภาพนั้นเป็นอย่างไร เธอหาข้อมูลอย่างที่ไม่มีใครกล้าทำ เธอไม่ได้แค่ปลอมตัวเป็นคนแก่ แต่เธอได้กลายเป็นคนแก่ เธอใส่แว่นมัวๆ เพื่อให้สายตามองเห็นเหมือนคนที่สายตาไม่ดี เอาที่อุดหูใส่เพื่อให้หูไม่ค่อยได้ยิน เอาผ้าพันตัวหนาๆ ห่อเพื่อให้หลังค่อม เอาเทปพันข้อแขนและขาเพื่อไม่ให้งอได้สะดวก และท้ายสุดคือใส่รองเท้าที่สูงไม่เท่ากันเพื่อจะต้องใช้ไม้เท้าพยุงในการเดิน . . เธอเดินทางไปทั่วอเมริกาและใช้เวลากว่า 4 ปี ในการใช้ชีวิตแบบทรมานทุกวันเพื่อหาคำตอบว่า “หลังจากที่คนแก่ต้องเจออุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว เขาและเธอจะเปิดตู้เย็นอย่างไร” ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง คือ เธอกลายเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่มีนวัตกรรมมากมายที่ทำให้ทุกคนใช้ ตั้งแต่เด็กๆ จนถึงคนชรา ทั้งหมดมาจากรากฐานของคำว่า “เข้าใจ” ซึ่งเป็นวิธีคิดในการทำการตลาดสมัยใหม่ คือ Empathy . . "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้มีพื้นที่จำกัด แต่จินตนาการมีทุกที่บนผืนโลก" เป็นวลีอันอมตะที่ Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ทิ้งไว้ให้โลกใบนี้ ต่อให้มีความรู้มากขนาดไหน หากไม่มีจินตนาการก็ไม่มีทางรู้เลยว่าจะเอาความรู้นั้นไปใช้กับอะไร . . แต่เขายังมีอีกวลีที่กล่าวไว้ว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ โดยปราศจากการเริ่มต้น” หากเราจินตนาการอย่างเดียวและไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย ความสำเร็จก็เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.20 ต่อยอดจากการบรรยายของ ดร. ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ อาจารย์ประจำ สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA - Digital Network Advantage หลักสูตรพัฒนาพันธุกรรมทางความคิด เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีพลวัตในยุคปัจจุบัน มาแบ่งปันเทคนิคที่ทำให้เราไม่หยุดแค่จินตนาการและเริ่มออกเดินทางบนเส้นทางของตัวเอง . . #Speaker #DNA3bySPU 2 June 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP19
ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรม Nudge theory . . แนวคิดใหม่ที่คนไทยยังไม่ค่อยได้ยินแต่กำลังมาแรงในต่างประเทศ เป็นไม้อ่อนที่แข็งกว่าการโฆษณารณรงค์สร้างจิตสำนึก แต่ก็อ่อนกว่าการบังคับใช้ด้วยกฎหมาย นั่นคือการ “สะกิด” (Nudge) เป็นการชักจูงให้ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เราอยากให้เป็น โดยที่ผู้บริโภคไม่รู้สึกตัวว่ากำลังโดนชี้นำ . . Nudge Theory หรือทฤษฎีสะกิด เป็นผลงานของ Richard H. Thaler นักเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2017 และเป็นผู้ที่ทำให้วิชาเศรษฐศาสตร์มีความเป็นมนุษย์ขึ้น แม้ว่าวิชาเศรษฐศาสตร์และรางวัลโนเบลจะดูเหมือนซับซ้อนและเป็นเรื่องไกลตัว แต่ได้แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การขายสินค้าของเหล่า SME จนถึงการออกแบบนโยบายของภาครัฐและเอกชน . . ทฤษฎีดังกล่าวเป็นผลผลิตส่วนหนึ่งของวิชาเศรษฐศาสตรพฤติกรรม (Behavioral Economy) ที่มาจากหลักคิดว่า มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยใช้เหตุผลในการตัดสินใจเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของคน หรือการตัดสินใจต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากการกระตุ้นอะไรบางอย่าง อาจเป็นการกระตุ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การไปที่ร้านข้าวตามสั่ง แล้วเห็นว่าบนโต๊ะของลูกค้าท่านอื่นมีแต่คนสั่งผัดกะเพราะไก่ เลยสั่งผัดกระเพราะไก่บ้างเพราะคิดว่าเมนูนี้น่าจะอร่อย แต่จริงๆ แล้วอยากกินผัดกระเพรากุ้ง เป็นต้น . . สรุปได้ว่ามนุษย์นั้นขาดเหตุและผลในการตัดสินใจและไม่เป็นไปตามสมมติฐานของวิชาเศรษฐศาสตร์ที่เรียนกันมา การเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ที่แท้จริงในระดับย่อยจะทำให้การวิเคราะห์มีความแม่นยำมากขึ้น จึงมีคนนำศาสตร์ของการตัดสินใจนี้ไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบหรือใช้ในวิธีการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เราทำในสิ่งที่เค้าต้องการ และไอเดียเรื่อง Nudge เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ . . แล้วเราสามารถใช้ประโยชน์จากทฤษฎีนี้ได้หรือไม่ ? . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณพล หุยประเสริฐ ผู้ก่อตั้งบริษัท H.U.I. คอนเสิร์ตดีไซเนอร์อันดับหนึ่งของประเทศไทย มาเล่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังในการสร้างคอนเสิร์ตที่น่าจดจำด้วยวิธีคิดที่แสนจะเรียบง่าย นั่นคือ “การออกแบบมวลอารมณ์” และด้วยกรณีศึกษาที่สร้างแรงบันดาลใจ จะทำให้เราได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเราจะได้ประโยชน์จากแนวคิดนี้อย่างไร? . . พฤติกรรมการตัดสินใจแบบไร้เหตุผลเช่นนี้เกิดขึ้นในหลายเหตุการณ์รอบตัวเรา และเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนนักพฤติกรรมศาสตร์สังเกตได้ จึงให้ความสนใจและศึกษาเพิ่มเติม พบว่าลึกๆ แล้วมนุษย์นั้นเป็นสัตว์โลกที่สุดแสนขี้เกียจ ทั้งในการกระทำแม้กระทั่งการตัดสินใจ คนส่วนมากเลือกที่จะไม่ตัดสินใจในทางที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองในระยะยาว เพราะขี้เกียจคิดถึงเหตุผลต่างๆ มาชั่งน้ำหนักและคิดวิเคราะห์ แต่ชอบใช้สัญชาตญาณหรือความรู้สึกลึกๆ ที่อยู่ข้างใน เป็นตัวตัดสิน . . ตีความได้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อุดมไปด้วยความรู้สึก จึงเลือกใช้ “อารมณ์” นำหน้า “เหตุผล” ในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนพฤติกรรม นั่นเป็นสาเหตุว่า ทำไมเราจึงมีพฤติกรรมที่รู้ว่าไม่ดีแต่อดไม่ได้ เช่น การสูบบุหรี่ กินเหล้า เสพยา หรือกินอาหารหวาน เค็ม มัน มากเกินขนาดไป . . ดังนั้นป่วยการที่จะชักจูงให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยข้อมูลที่ซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ หรือข้อมูลที่น้อยเกินไปจนไม่เห็นคุณค่า การที่จะชี้นำพฤติกรรมได้นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้วิชาการออกแบบให้สวยงามด้วยกราฟฟิคที่ทันสมัย แต่คำถามสำคัญคือ ทำอย่างไรให้เขา “รู้สึก” ด้วยอารมณ์และสัญชาตญาณ . . ประเด็นที่น่าสนใจ คือ เราไม่มีทางค้นพบพฤติกรรมแบบนี้ในการทำงานวิจัยตลาด ทั้งการทำแบบสัมภาษณ์หรือการตอบแบบสอบถาม เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตรพฤติกรรมกำลังศึกษาและชักชวนให้นักการตลาดและนักออกแบบหันมาสนใจ เพื่อจะได้นำไปออกแบบวิธีสะกิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยไม่ฝึนใจทำ . . ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีการออกแบบ สร้างสรรค์และคิดเป็นอย่างดีแล้วที่จะ “สะกิด” ให้เราทำตามโดยอัตโนมัติ หลายๆครั้งเราคิดว่านี่เป็นเสรีภาพที่เราเลือกเอง แต่จริงๆ แล้ว เราอาจจะถูกบังคับให้เลือกอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าจะเลือกฟังเฉยๆ เพื่อประดับความรู้ หรือเลือกที่จะตั้งใจฟัง ศึกษามันเป็นอย่างดีแล้วทำตาม . . ถ้าเลือกที่จะทำตาม เเม้ว่าผลลัพธ์อาจจะไม่เห็นผลทันตา เเต่เชื่อเถอะว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ เเละประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.19 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณพล หุยประเสริฐ ผู้ก่อตั้งบริษัท H.U.I. คอนเสิร์ตดีไซเนอร์อันดับหนึ่งของประเทศไทย มาเล่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังในการสร้างคอนเสิร์ตที่น่าจดจำด้วยวิธีคิดที่แสนจะเรียบง่าย นั่นคือ “การออกแบบมวลอารมณ์” และด้วยกรณีศึกษาที่สร้างแรงบันดาลใจ จะทำให้เราได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเราจะได้ประโยชน์จากแนวคิดนี้อย่างไร? . . #Speaker #DNA3bySPU 2 June 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP18
ความหงุดหงิดข้ามสายพันธุ์ Digital Disruption . . ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงหัวข้อที่น่าตื่นเต้นที่สุดไม่ว่าจะหันหน้าไปที่ทิศทางไหน ก็มักจะได้ยินผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจวิเคราะห์ความเป็นไปในโลกนี้ในทิศทางประมาณว่า “โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว” และสาเหตุที่สำคัญที่สุด คือ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี . . จริงอยู่ว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมีนัยยะสำคัญต่อภาคธุรกิจ พื้นที่ดังกล่าวอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็คงไม่ถึงขั้นล่มสลาย แต่ที่ผ่านมาเรากลับได้ยินข่าวการที่หลายธุรกิจโดน Disrupt จนชินตา ได้ยินอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เดินเกมผิดแต่ไม่มีที่ยืนอีกแล้วอย่างคุ้นหู แสดงว่าต้องมี “บางสิ่ง” ที่นอกเหนือจากการขยายตัวเทคโนโลยี ปัจจัยที่ทำให้หลายธุรกิจต้องหายไป และสร้างความตื่นกลัว ทำให้ผู้ที่เหลืออยู่ในอุตสาหกรรมต้องรีบปรับตัว . . เทคโนโลยีอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายธุรกิจโดน Disrupt แต่ถ้ามองลึกไปกว่านั้น จะเห็นว่าสิ่งทีเปลี่ยนไปที่สุด และมีผลกระทบที่สุดคือ “พฤติกรรมผู้บริโภค” ช่วงก่อนที่ Steve Jobs จะแนะนำให้โลกรู้จัก iPhone ช่วงนั้นเราเข้าถึง อินเทอร์เน็ตด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นในการหาข้อมูล แต่ไม่ถึงขั้นเป็นทุกอย่างในการดำรงชีวิต แต่หลังจาก iPhone ถูกประดิษฐ์ขึ้นและพัฒนาสมรรถนะให้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สิ่งนั้นเปลี่ยนพฤติกรรมจากการที่คนใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจมาเป็นสิ่งที่ชีวิตขาดไม่ได้ . . ก่อนจะมี Smartphone พฤติกรรมของมนุษย์ระหว่างกินข้าว คือ กินไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน แต่หลังจากที่อินเทอร์เน็ตมาสู่มือของเรา เราเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นกินไปก้มหน้าดูจอไป เมื่อก่อนเราดูทีวีไปอ่านหนังสือไปไม่ได้ แต่ตอนนี้เราดูทีวีไปพลาง เช็คสเตตัสไปพลาง . . การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอาจจะดูเหมือนที่สุดแล้ว แต่จริงๆ แล้วมีอีกพฤติกรรมรูปแบบหนึ่งที่แอบซ่อนอยู่ เป็นการกระทำที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ และถ้าธุรกิจมองข้ามไปอาจจะล่มสลายได้โดยรู้ตัว . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณธนา เธียรอัจฉริยะ CMO ธนาคารไทยพาณิชย์ และผู้อำนวยการหลักสูตร ABC สถาบันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะมาแนะนำเราให้ทำความรู้จักการรับมือแม่น้ำที่กำลังเปลี่ยนทิศที่จะชี้นำให้เราไปสู่ระบบใหม่ ให้สามารถทนต่อความท้าทายทางธุรกิจที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้ . . “ความหงุดหงิดข้ามสายพันธุ์” คือสิ่งที่หลายธุรกิจมองข้ามแต่ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล เช่น การที่บริษัทพิซซ่าให้บริการส่งอาหารได้ภายใน 30 นาที ทำให้ผู้ใช้บริการเสพติดพฤติกรรมและคิดว่าอุตสาหกรรมอื่นต้องให้บริการตามมาตรฐานนั้นด้วย ในกรณีที่แอร์เสีย สมัยก่อนเราสามารถรอรับการบริการจากช่างแอร์ได้ 2-3 วัน แต่ตอนนี้เราคาดหวังว่าช่างแอร์ต้องพร้อมให้บริการภายใน 30 นาที . . ความหงุดหงิดข้ามสายพันธุ์แพร่กระจายอย่างไร้ขอบเขต เมื่อมีร้านอาหารให้เก็บคะแนนบัตรสะสมแต้มผ่านทางแอพในมือถือ แล้วถ้าร้านหนังสือยังต้องให้ถือบัตรสมาชิกก็จะรู้สึกไม่พอใจ ทั้งๆ ที่เป็นคนละธุรกิจกัน เมื่อมีร้านคอมพิวเตอร์ให้บริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทำรายการ ผู้บริโภคก็คาดหวังว่าร้านเฟอร์นิเจอร์ต้องจัดส่งสินค้าได้ในไม่กี่ชั่วโมงเช่นกัน . . ความยุ่งเหยิงรูปแบบนี้กระทบเป็นลูกโช่ไปทั่วอุตสาหกรรมอื่น โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ทอัพที่คิดตรงข้ามธุรกิจเดิมสิ้นเชิง ไม่คิดเรื่องกำไร แต่จะสร้างฐานลูกค้าให้อยู่กับเขาเสียก่อน โดยให้ใช้บริการดีและฟรี แล้วค่อยหากำไร เช่น Joox ที่ให้ลูกค้าฟังเพลงฟรี จนปัจจุบันมีฐานลูกค้าคนไทย 10 ล้านคน Line มีฐานลูกค้า 40 ล้านคน แล้วค่อยขยายไปสู่การส่งของ Line Man, Line Taxi, Line Financial เป็นต้น เมื่อลูกค้ามีพฤติกรรมเสพติดของฟรี แล้วการที่ธนาคารเก็บค่าธรรมเนียมผ่านการทำ Mobile Banking จะรับประกันได้อย่างไรว่าลูกค้าจะพอใจ ? ธนาคารจึงต้องยอมยกเลิกค่าธรรมเนียม เพื่อให้ลูกค้าอยู่บนแพลตฟอร์ม Mobile Banking . . หลายคนเชื่อว่าความสำเร็จมาจากการตัดสินใจที่ถูก และการตัดสินใจที่ถูกก็มาจากประสบการณ์ แต่จริงๆ แล้ว “ประสบการณ์มาจากการตัดสินใจที่ผิด และการตัดสินใจที่ผิดมาจากความกล้า” ก่อนที่เราจะทำอะไรให้ถูกได้ ก็ต้องทำอะไรผิดเสียก่อน และเมื่อผิดถึงจะเกิดการเรียนรู้ การเรียนรู้ส่งผลต่อความมั่นใจ และความมั่นใจจะก่อให้เกิดความกล้าหาญ . . ความกล้าหาญสำคัญมากในโลกยุคใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือ ล้มแล้วต้องรู้จักลุกและต้อง “เรียนรู้” ให้เป็น . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.18 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ CMO ธนาคารไทยพาณิชย์ และผู้อำนวยการหลักสูตร ABC สถาบันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะมาแนะนำเราให้ทำความรู้จักการรับมือแม่น้ำที่กำลังเปลี่ยนทิศที่จะชี้นำให้เราไปสู่ระบบใหม่ ให้สามารถทนต่อความท้าทายทางธุรกิจที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้ . . #Speaker #DNA3bySPU 2 June 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP17
อะไรคืองานที่ลูกค้า “จ้าง” ให้เราทำ? Jobs-to-be-done . . ท่ามกลางคลื่นลมอันปั่นป่วนของโลกยุคใหม่ มีธุรกิจหลากหลายที่ถูกบังคับให้ล้มหายตายจาก บ้างก็เจอเข้ากับความท้าทายที่ต้องปรับเปลี่ยนถึงจะอยู่รอด แต่ท่ามกลางคลื่นลมกระแสเดียวกัน บางธุรกิจที่ก่อร่างสร้างตัวจากพื้นที่เล็กๆ กลับเติบใหญ่จนฉุดไม่อยู่ บ้างที่แข็งแรงอยู่แล้วก็แข็งแกร่งกว่าเดิม จนทิ้งห่างผู้ร่วมอุตสาหกรรมไปอย่างไม่เห็นฝุ่น . . มีหลายสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้ถูกสร้างจากงบประมาณมหาศาลของบริษัทขนาดใหญ่ ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นทุนเดิม ปราศจากงบโฆษณาก้อนโตบนสื่อหลัก แต่กลับถูกกล่าวถึงอย่างมากมายและมีคนหลากหลายยอมรอคิวเพื่อได้รับสินค้าหรือใช้บริการ . . ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าสินค้าดังกล่าวไม่ได้มีความแตกต่างด้าน “โครงสร้างพื้นฐาน” กับคู่แข่งขันรายอื่นเลย เจ๊จงหมูทอด ก็ขายข้าวหมูทอดเหมือนกันกับร้านอื่น ถึงแม้รสมือของแม่ครัวและวัตถุดิบจะสร้างความแตกต่างได้บ้าง แต่ก็คงนับไม่ได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จของธุรกิจ Airbnb ก็เป็นแค่สตาร์ตอัพการแบ่งปันที่พัก ซึ่งรูปแบบธุรกิจแทบจะไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น แต่ทำไม Airbnb ได้เป็นถึงยูนิคอร์นที่สามารถระดมทุนได้มากกว่าเชนโรงแรมขนาดใหญ่ Apple ก็ขายคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ทำไมถึงมีแต่ Apple ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ . . ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง แต่เกิดขึ้นบ่อยจนพอจะนับจำนวนและสังเกตได้ แสดงว่าไม่ใช่เรื่องของดวงและความโชคดี แต่เกิดจากรูปแบบหรือหลักคิดอะไรบางอย่างที่สินค้าและบริการที่ประสบความสำเร็จ คิดและลงมือทำไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วซะทีเดียว แต่มีความคล้ายคลึงกันจนสัมผัสได้ . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง นักการตลาดดิจิทัลผู้ก่อตั้ง DOTS Consultancy และ Nuttapuch.com มาเปิดเผยปริศนาดำมืดของการสร้างคอนเทนต์ที่ไปได้ไกลและสร้างความประทับใจให้หลายต่อหลายคนว่ามีส่วนผสมอย่างไรบ้าง . . กรอบความคิด Jobs-to-be-done คือหนึ่งในหลักคิดที่แบรนด์เหล่านั้นนำมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะรู้ตัวหรือไม่ กรอบความคิดนี้ถูกพัฒนาโดย Clayton Christensen ศาสตราจารย์จาก Harvard Business School หลักการดังกล่าวบอกให้เรามองลึกและพุ่งเป้าไปที่ลูกค้า แต่ไม่ได้บอกอย่างหลักลอยว่าต้องเข้าใจลูกค้า เพราะในความเป็นจริงเราไม่มีทางเข้าใจลูกค้าได้ แต่เป็นการมองทะลุถึงลูกค้าว่าโดยแท้จริงแล้วลูกค้า “จ้าง” สินค้าเราให้ทำงานอะไรให้สำเร็จ ? ทุกสินค้าและบริการในโลกนี้ล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ “แก้ปัญหา” บางอย่าง เราซื้อคอมพิวเตอร์เพราะไม่ได้ต้องการคอมพิวเตอร์ แต่เพราะต้องการอุปกรณ์บางอย่างมาทำรายงานหรือสอนหนังสือ เราไม่ได้ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เพราะอยากได้การออกแบบใหม่ แต่เราต้องการอุปกรณ์การทำงานที่ช่วยเราฆ่าเวลาและทำงานได้อย่างไม่สะดุด . . ลูกค้าเจ๊จงหมูทอดมาใช้บริการที่ร้านเจ้จง ไม่ได้อยากกินข้าวหมูทอด แต่พวกเขามาเพราะต้องการให้ “ท้องอิ่ม” นั่นเป็นสาเหตุให้ที่ร้านเจ๊จงมีบริการกล้วยน้ำว้าฟรี ผู้ที่ใช้บริการ Airbnb ไม่ได้ต้องการแค่ที่พักในต่างแดน แต่ต้องการ “ประสบการณ์เหมือนคนต่างแดน” ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ของ Apple ไม่ได้ซื้อประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ซื้อ “คอมพิวเตอร์ที่เป็นอุปกรณ์แต่งบ้าน” . . หลักการดังกล่าวถึงจะมีอายุประมาณสี่ห้าปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีความทันสมัยและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น อุตสาหกรรมธนาคารในตอนนี้ ที่มีการเปลี่ยนบริบทของธนาคาร โดยการยกเลิกค่าธรรมเนียมในการโอนเงินผ่าน Mobile Banking ทำให้มีการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น แต่จุดกระเพื่อมแรกสุดของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มาจากพฤติกกรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ลูกค้าในวันนี้คุ้นเคยกับของ “ฟรี” . . ตอนนี้ทุกกิจกรรมที่อยู่บนหน้าจอมือถือ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ คุยกับเพื่อน ทุกอย่างฟรีหมดจนลูกค้าไม่ยอมจ่ายอะไรอีกแล้ว ลูกค้าจ้างและโหลดแอพของธนาคารเพื่อ “จัดการเงิน ไม่ใช่ให้มาเสียเงิน” จึงทำให้ธนาคารต้องจำใจยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของธนาคาร ไม่ว่าธนาคารจะชอบหรือไม่ก็ตาม แค่ก็ต้องทำเพราะต้องการให้ลูกค้าอยู่บนแพลตฟอร์ม เพื่อจะนำข้อมูลมาพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ . . Peter Drucker ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ ได้เคยกล่าวในหนังสือของเขาว่า the customer rarely buys what the business thinks it sells them. ซึ่งหมายความว่า “ลูกค้าไม่ค่อยจะซื้ออะไรที่บริษัทพยายามจะเสนอขาย” ดังนั้นการมองให้เห็นถึงแก่นแท้ จริงๆ แล้วลูกค้าต้องการ “จ้าง” สินค้าให้เราทำอะไร แล้วนำงบประมาณไปพัฒนาสิ่งนั้นให้ถึงที่สุด ถึงจะเป็น Game Changer ที่แท้จริง . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.17 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง นักการตลาดดิจิทัลผู้ก่อตั้ง DOTS Consultancy และ Nuttapuch.com มาเปิดเผยปริศนาดำมืดของการสร้างคอนเทนต์ที่ไปได้ไกลและสร้างความประทับใจให้หลายต่อหลายคนว่ามีส่วนผสมอย่างไรบ้าง . . #Speaker #DNA3bySPU26 May 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP16
พลิกมุมคิด ธุรกิจเปลี่ยน Shift Happens . . อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนสองคนมองสิ่งเดียวกัน ของชิ้นเดียวกัน ปัญหาเดียวกัน แต่คนหนึ่งมองเห็นขวากหนามแห่ง ”อุปสรรค” ในขณะที่อีกคมมองเห็นแต่พื้นที่ที่เต็มไปด้วย “โอกาส” ? . . ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ถูกกำหนดด้วย “มุมคิด” ของแต่ละคน ของชิ้นเดียวกันเมื่อต่างมุมมอง แต่ละคนก็จะตีความไม่เหมือนกันตามประสบการณ์ของปัจเจกชน วิธีคิด ทำ พูดก็จะเปลี่ยนไปตามความคิดของแต่ละคน เหมือนกับ “มุม” ที่เกิดจากเส้นตรงสองเส้นซ้อนทับกัน มองด้านนึงก็จะได้มุมแหลม แต่มองในตำแหน่งที่เปลี่ยนไปกลับได้มุมป้าน . . มุมคิดนั้นปราศจากอะตอม ไร้ซึ่งตัวตนและไม่สามารถจับต้องได้ แต่สามารถนำพาวิธีคิดและกำหนดชะตาชีวิตคนได้ บางคนเชื่ออย่างแรงกล้าว่า “ความล้มเหลว” คือ การยอมรับความไม่สมบูรณ์พร้อมและเป็นสิ่งจำเป็นที่จะไปสู่สะพานแห่งความสำเร็จ ทำให้บางคนเลือกที่จะสู้ แต่บางคนกลับมองว่าความล้มเหลวเป็นสิ่งเลวร้าย น่าอับอาย และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น ไม่สามารถลบเลือนรอยแผลได้ตลอดชีวิต . . ท่ามกลางสายลมที่เปลี่ยนแปลง บางคนสร้างกำแพง บางคนสร้างกังหัน เราไม่อาจหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์ เป็นสัจธรรมที่โลกต้องเจอ แต่เมื่อเราพบกับสายลมของการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราเลือกสร้างกำแพง เราก็จะหาวิธีตั้งรับแบบหนึ่ง แต่ถ้าเลือกสร้างกังหัน ก็จะตั้งรับอีกแบบหนึ่งซึ่งไม่เหมือนกัน . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณสรกล อดุลยานนท์ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” และพิธีกรรายการ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” จะมาเล่าถึงวิธีคิดเล็กๆ ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจของเราให้มีเสน่ห์ ตามอัตราความเร็วที่เหมาะสมกับตัวเองและไม่ได้มากจนเกินพอดี . . โดยแท้จริงแล้ว “มุมมอง” นั้นคือการ “เลือก” มอง ถ้าเราเลือกมองในมุมที่ดี จะทำให้เรากล้าหาญและมีพลัง แต่ถ้าเราเลือกมองในมุมที่ไม่ดี โลกใบนี้จะทำให้รู้สึกว่าเรากำลังเป็นเหยื่อของการถูกทำร้ายและมีชีวิตอยู่ใต้ความหวาดกลัว ถ้ามองด้วยมุมบวก ทุกวันคือวันแห่งความหวังและความเชื่อมั่น ไม่เกรงกลัวต่อปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ แต่ถ้ามองในมุมลบ ทุกวันคือวันที่ท้อแท้แสนหดหู่ ยิ่งคิดยิ่งอยากถอยและไร้ซึ่งโอกาส . . ถ้ามีที่ว่างให้หาประโยชน์จากความว่าง ถ้าพบเจอปัญหาให้คิดเสียว่าปัญหาคือบิดาของนักประดิษฐ์ ถ้าเจอปริศนาที่ชุดความคิดเดิมใช้ไม่ได้ ให้คิดนอกกรอบออกจากสามัญสำนึกเดิมๆ ถ้าก้าวผิดก็ลุกให้เร็วและเรียนรู้จากความผิดพลาด ถ้าเดี๋ยวจะทำ ต้องบังคับให้ตัวเองทำเดี๋ยวนี้เพราะไม่มีเวลาใดที่ดีกว่าตอนนี้อีกแล้ว . . และถ้าได้รับชนะขอให้ดื่มด่ำกับชัยชนะอย่างมีความสุข แต่ถ้าพ่ายแพ้ก็ขอให้พ่ายแพ้อย่างมีรอยยิ้มและเป็นที่น่าจดจำ . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.16 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณสรกล อดุลยานนท์ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” และพิธีกรรายการ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” จะมาเล่าถึงวิธีคิดเล็กๆ ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจของเราให้มีเสน่ห์ ตามอัตราความเร็วที่เหมาะสมกับตัวเองและไม่ได้มากจนเกินพอดี . . #Speaker #DNA3bySPU 19 May 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP15
เข้าใจสื่อยุคใหม่ในวัฒนธรรมไซเบอร์ Cyber Culture . . ปี 1944 Tim Berners Lee นักวิจัยแห่งสถาบันวิจัยเซิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้พัฒนาโปรเจคการจัดเก็บและนำเสนอข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ทในรูปแบบไฮเปอร์เท็กส์ ซึ่งในเวลาต่อมาแนวคิดของเขานั้น โลกรู้จักในนาม “เวิล์ดไวด์เว็บ” (www) บ้านเลขที่ของข้อมูลที่อาศัยอยู่บนโลกออนไลน์ แนวคิดของเขาเป็นก้าวสำคัญของยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพราะเอื้ออำนวยให้คนทั่วโลกสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง . . อินเทอร์เน็ตและเวิล์ดไวด์เว็บ ทำให้เกิดการปลี่ยนแปลงหลายๆ ด้าน เกิดการสร้างงาน สร้างข้อมูล สร้างธุรกิจในแบบที่คนทั่วโลกเข้ามามีส่วนร่วมซึ่งกันและกัน แต่สิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากคือ “ภูมิทัศน์สื่อ” ถ้าเป็นยุคก่อนที่จะเกิดอินเทอร์เน็ต สื่อคือตัวกลางที่จะถ่ายทอดสารไปสู่ผู้รับสาร เพื่อให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร แต่หลังจากโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ “สื่อใหม่” (New Media) โดยเฉพาะ Social Media ได้กลายเป็นสื่อที่มีความสำคัญในการขับถ่ายขนย้ายข้อมูลที่เกิดขึ้นในโลกนี้มากกว่าสื่อรูปแบบเดิมที่คุ้นเคย (Traditional Media) . . สื่อใหม่นั้นไม่ใช่แค่สื่อที่เกิดขึ้นมาจากไอเดียใหม่ๆ แต่คือสื่อที่ต้องการวิธีบริหารจัดการที่แตกต่างออกไป แต่ปัญหาคือมีผู้ประกอบการและนักการตลาดหลายๆ ท่าน ยังมีความเชื่อว่าถึงแม้สื่อได้เปลี่ยนไปเป็นสื่อยุคใหม่แล้ว แต่วิธีการบริหารจัดการก็น่าจะมีความคล้ายคลึงกับสื่อดั้งเดิมที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง เสมือนกีฬาฟุตบอลและฟุตซอล ถึงแม้จะมีวิธีการเล่นพื้นฐานที่ผู้เล่นต้องใช้เท้า ห้ามใช้มือสัมผัสลูกเหมือนกัน แต่ก็มีรายละเอียดของกฎ กติกา เทคนิค แทคติกและวิธีการเอาชนะที่ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันตามขนาดของสนามและเวลาแข่งขันที่เปลี่ยนไป . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ Editor-in-chief Thestandard.co มานำเสนอโมเดลที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นำไปสู่ระบบความคิดที่ยิ่งใหญ่และควรค่าแก่การเรียนรู้ในการบริหารจัดการสื่อในยุคใหม่เพื่อการทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ . . หัวใจหลักของสื่อใหม่นั้นประกอบไปด้วย 2 ข้อ 1. อนุญาตให้ผู้เสพเข้าถึงเนื้อหาตามความต้องการ ทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต 2. สร้างการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ได้ เช่น การแชร์ การกดไลค์ การแท็กเพื่อน และสามารถรับข้อมูลป้อนกลับได้ในเวลาจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อคุ้นเคยไม่สามารถทำได้ . . เมื่อทำความเข้าใจในธรรมชาติของสื่อใหม่ดีแล้ว และท่านจะมีโปรเจคทำโฆษณาสักแคมเปญหนึ่ง อย่าทำเหมือนแค่ย้ายจอทีวีมาสู่จอมือถือหรือย้ายแม็กกาซีนมาลง Social Media เท่านั้น ท่านต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ออกแบบใหม่ให้เหมาะสมกับธรรมชาติของสื่อใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การเขียนแคปชั่นที่น่าสนใจ รูปภาพที่ดึงดูด พาดหัวที่จู่โจมจิตใจ ทั้งหมดจะทำให้ผู้เสพนั้นมีพฤติกรรม “โน้มตัวไปข้างหน้า” (Lean Forward) เพื่อแสดงความสนใจและช่วยกระจายให้แคมเปญโฆษณาของท่านไปสู่สนามต่อไปด้วยการเติบโตแบบเท่าทวี . . อาจจะเป็นการยากและต้องใช้เวลาสักพักเพื่อที่จะทำความเข้าใจในวิธีการบริหารจัดการกับสื่อใหม่ เพราะผู้ประกอบการและนักการตลาดส่วนมากเป็นกลุ่มคนที่ถูกขนานนามว่า “Digital Immigrant” (ผู้อพยพสู่โลกดิจิทัล) หมายถึงผู้เกิดก่อนยุคดิจิทัลเฟื่องฟู มีความสนใจและมองเห็นประโยชน์ จึงหันมาศึกษาและเรียนรู้พื้นฐานการใช้งาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก หลายคนยังคงชินมือกับระบบอนาล็อกอยู่ จึงปรับให้เข้ากับสไตล์ของตนเอง เช่น สั่งพิมพ์เอกสารบนคอมพิวเตอร์บนกระดาษเพื่อแก้ไข แทนที่จะแก้ในคอมเลย หรือโทรศัพท์ไปถามลูกค้าว่าได้รับอีเมลล์หรือยัง ? . . Bruce Lee นักศิลปะต่อสู้ ได้กล่าวไว้อย่างน่าประทับใจว่า “การมีความตั้งใจเป็นเรื่องที่ดี แต่ความตั้งใจอย่างเดียวยังน้อยไป เราต้องลงมือทำ” การเรียนรู้นั้นถึงแม้ว่ายากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ ขอแค่มีความพยายามผสมกับความมุ่งมั่นตั้งใจ เคลือบไปด้วยความกล้าหาญในการทดลองลงมือทำ ไม่ว่าเส้นชัยไหนๆ ก็คงไม่มีคำว่าไกลเกินไปอย่างแน่นอน . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.15 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ Editor-in-chief Thestandard.co มานำเสนอโมเดลที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นำไปสู่ระบบความคิดที่ยิ่งใหญ่และควรค่าแก่การเรียนรู้ในการบริหารจัดการสื่อในยุคใหม่เพื่อการทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ . . #Speaker #DNA3bySPU 19 May 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal3 #EP14
น้อยนิด...มหาศาล . . นักการตลาดและผู้ประกอบการมักจะเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ให้ความสนใจกับการก้าวไปข้างหน้า (Moving Forward) จึงให้ความใส่ใจเป็นพิเศษกับ “คำศัพท์” ทันสมัยที่ออกมาสร้างกระแสใหม่ๆ ในแต่ละปี และมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นกระแสนิยมในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Cashless Society, Block Chain, Growth Hacking , หรือ Inbound Marketing และในยุคสมัยของข้อมูลข่าวสาร การจะหาความหมายของคำศัพท์เหล่านั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะตั้งคำถามว่าจะเชื่อมโยงได้อย่างไร ? คงเป็นเรื่องที่น่าขบคิดยิ่งกว่า . . ท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน แต่ล้วนพัฒนา Know How ต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน หนึ่งในสาเหตุนั้นคือ หลายอุตสาหกรรมได้รับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลในที่เดียวกัน นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมสิ่งใหม่ๆที่แต่ละบริษัทสร้างออกมามีความคล้ายคลึงกันไปเสียหมด . . ในยุคการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่เทคโนโลยีของฮาร์ดแวร์ทำงานสอดประสานเข้ากับเทคโนโลยีทางซอฟท์แวร์ได้อย่างไร้รอยต่อ การสร้างสิ่งประดิษฐ์ล้ำหน้าหรือวิทยาการที่ก้าวไกลดูเหมือนจะเป็นสาระสำคัญในการชี้ขาดผู้ชนะในการแข่งขัน แต่ทำไมมีบริษัทหลากหลายที่ไม่ได้ผลิตหรือสร้างอะไรใหม่ๆ แต่กลับเติบโตได้ในโลกที่ก้าวไปข้างหน้า . . หลักสูตร #DNA3bySPU ได้รับเกียรติจากคุณสาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ศิลปินวาดภาพประกอบ Character Illustrator เจ้าของแบรนด์ @CyranoDesign และศิษย์เก่าของ #DNA1BYSPU ที่มาแบ่งปันเรื่องราวของสิ่งเล็กๆ ที่สร้างมูลค่าอย่างมหาศาลและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้อย่างไม่รู้ลืม . . พื้นฐานของการประกอบธุรกิจ เริ่มต้นจากสายใยของผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อผู้ขายทำสินค้าที่แก้ปัญหาได้ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับการตอบรับ และถ้ายิ่งทำด้วยห้วใจ ผู้ซื้อก็ยินดีรับไปอย่างรู้คุณค่า รูปแบบของการซื้อขายเป็นแบบนี้เรื่อยมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จนมากระทั่งถึงยุคสมัยนี้ ช่วงเวลาที่หุ่นยนต์จะมีบทบาทและความสำคัญกว่าคน ทำให้เราลืมมองไปว่าแท้ที่จริงแล้วผู้ซื้อก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจอยู่เหมือนกับผู้ขาย . . อย่าหลงลืมว่าท่านกำลังทำธุรกิจกับคน คนต้องการความผูกพันและสัมพันธภาพ ดังนั้นการที่จะทำให้ท่านอยู่ในหัวใจของเขา ท่านไม่ต้องสร้างหุ่นยนต์ที่ก้าวไกล ไม่จำเป็นต้องมีระบบ AI ที่ล้ำหน้า แค่ท่านใส่ใจให้กับความรู้สึกของเขา และปฎิบัติกับเขาเหมือนคนพิเศษก็เพียงพอแล้ว . . หลักการดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับศาสตร์ Emphaty นั่นคือการเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ผ่านความรู้สึกระหว่างคนสองคน คนที่มี Emphaty ไม่ใช่แค่คนที่สามารถอ่านความรู้สึกของอีกคนได้ แต่ต้องนำสิ่งนั้นเข้ามาเป็นความรู้สึกของตนเองได้ด้วย . . ถ้าท่านอยากได้การปฎิบัติที่ดี จงปฎิบัติดีกับทุกคน ถ้าท่านอยากมีความสุขในทุกวัน จงทำให้คนรอบตัวท่านทุกวันมีความสุข และถ้าท่านอยากได้ความรู้สึกพิเศษจากลูกค้า จงทำตัวเสมือนว่าลูกค้าคือคนพิเศษ . . Dave Grossman นักเขียนชาวอเมริกัน กล่าวว่า “สมการของมนุษย์ คือ การเพิ่มความสุขและแบ่งเบาความทุกข์ การแบ่งปันความทุกข์ซึ่งกันและกันจะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ ส่วนการแบ่งปันความสุขจะช่วยให้ความสุขเพิ่มขึ้น” แน่นอนว่าการที่มองไปในอนาคตเป็นเรื่องที่สมควร แต่การขวนขวายและจดจ่อกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพียงอย่างเดียวจนทำให้มองข้ามปัจจุบันที่อุดมแวดล้อมไปด้วยสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก . . โลกใบนี้ยิ่งซับซ้อนเท่าไหร่ เรายิ่งต้องทำตัวให้เรียบง่ายขึ้นเท่านั้น วิทยาการไฮเทคอาจจะเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความสำเร็จ แต่ความผูกพันและสัมพันธภาพต่างหาก คือ สิ่งเล็กๆ ที่น้อยนิด แต่สร้างคุณค่าและมูลค่าได้อย่างมหาศาล . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.14 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณสาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ศิลปินวาดภาพประกอบ Character Illustrator เจ้าของแบรนด์ @CyranoDesign และศิษย์เก่าของ #DNA1bySPU ที่มาแบ่งปันเรื่องราวของสิ่งเล็กๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมหาศาลและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้อย่างไม่รู้ลืม . . #Speaker #DNA3bySPU 12 May 2018 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง |
DNAbySPUหลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม Archives
June 2019
Categories |