#DNAjournal2 #EP9
. . Move Along with LINE@ “ก้าวให้ไกล ...ไปกับ LINE@” . . LINE คือ แอพพลิเคชั่นส่งข้อความที่เริ่มให้บริการในประเทศญี่ปุ่น และขยายการให้บริการอย่างรวดเร็วไปในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายคือ การเป็น Smart Portal หรือเป็นศูนย์รวมบริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด . . จุดเริ่มต้นของ LINE มาจากวิกฤตเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 ที่ส่งผลให้ระบบโทรศัพท์ล่มไม่เป็นท่า ทำให้ทาง LINE รีบพัฒนาแอพพลิเคชั่นส่งข้อความทีสามารถใช้ได้ทั้งบนสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และคอมพิวเตอร์ PC ซึ่งต้องทำให้การแชทนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพื่อให้บริการกับคนญี่ปุ่นที่ต้องการระบบการสื่อสารอย่างเร่งด่วน . . ด้วยความที่ LINE มีคุณสมบัติของแอพพลิเคชั่นส่งข้อความในอุดมคติอย่างครบถ้วน เช่น ระบบแชทที่รวดเร็ว การส่งไฟล์รูปภาพและการจัดเก็บที่แสนสะดวก ระบบการเพิ่มเพื่อนที่ลดทอนความยุ่งยากโดย QR code และ ระบบ Sticker ที่ใช้ภาพตัวการ์ตูนเพื่อสื่อสารความรู้สึก ทำให้ LINE เติบโตเป็นโซเชี่ยลแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้บริการกว่าหลายร้อยล้านคนทั่วโลก . . LINE ประเทศไทย ก่อตั้งในปี 2557 ถือว่าเป็นตลาดสำคัญอันดับ 2 รองมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การพัฒนาบริการให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น LINE ประเทศไทย จึงได้เพิ่มบริการในด้านต่างๆ ให้ครอบคลุมวิถีชิวิตของผู้ใช้งาน เช่น LINE MAN บริการส่งอาหาร LINE TODAY นำเสนอข่าวสารจากพันธมิตรสื่อต่าง ๆ LINE GAME แหล่งรวมตลาดเกมมือถือในประเทศไทย LINE TV บริการทีวีส่วนตัวฉบับพกพา เป็นต้น . . ในปี 2558 LINE ประเทศไทย ได้ประกาศเปิดตัว LINE@ เซอร์วิสใหม่ เพื่อตอบสนอง SME ผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์หรือแบรนด์บุคคล เช่น ศิลปิน ดีไซเนอร์ ให้สามารถสร้าง Official Account เป็นของตนเอง เพื่อติดต่อสื่อสารและส่งข้อมูลข่าวสารได้ตรงถึงเป้าหมายอย่างง่ายดาย โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายในการใช้งานเบื้องต้น . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณนันทิศา อัครเกษมพร MANAGER ทีม LINE@ บริษัท ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มาแบ่งปันเคล็ดลับสุดพิเศษ ในการทำให้ธุรกิจก้าวไปได้ไกล เมื่อใช้ LINE@ . . LINE@ เป็นบัญชีสำหรับธุรกิจสำหรับ พูดคุย รับข่าวสารโปรโมชั่นและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยจะแยกออกมาจาก LINE ส่วนบุคคลโดยเด็ดขาด โดย 1 เครื่อง สามารถสร้างได้ถึง 100 Account สะดวกมากสำหรับผู้มีธุรกิจหลายอย่าง และเพิ่มแอดมินได้ถึง 100 แอดมินต่อ 1 Account . . “Broadcast” คือ คุณสมบัติที่ให้ท่านสามารถกระจายข้อความ รูปภาพ คูปองและโปรโมชั่น ผ่านแอพพลิเคชัน LINE@ ไปยังผู้ที่ติดตามบัญชี LINE@ ของท่าน รวมถึงยังสามารถตั้งเวลาส่งข้อความล่วงหน้าเพื่อเพิ่มความสะดวกได้อีกด้วย . . สามารถพูดคุยกับผู้ติดตามอย่างเป็นส่วนตัว ในรูปแบบ “Chat 1 ต่อ 1” ได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการพูดคุยบน LINE ส่วนบุคคล . . สร้างกิจกรรมที่ช่วยสร้างความจงรักภักดี โดยการนำเสนอ “คูปองและโปรโมชั่น” เพื่อส่งให้ลูกค้าใช้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทั้งยังสามารถตั้งระยะเวลาในการใช้ จำนวนครั้งในการใช้ และจำนวนคูปองที่จะแจกได้เพื่อควบคุมงบประมาณได้เช่นกัน . . สามารถสร้าง “แบบสอบถามหรือโพล” ที่เปิดให้ผู้ที่ติดตามบัญชี LINE@ ตอบแบบสอบถามหรือโหวตให้คะแนน และยังสามารถเก็บข้อมูล เช่น เพศ อายุ และที่อยู่ได้อีกด้วย . . สร้างหน้าบัญชี (Account Page) สำหรับให้ข้อมูลด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจท่าน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เว็บไซต์ ข่าวสารใหม่ๆ ฯลฯ โดยระบบจะจัดเรียงให้อยู่ในรูปแบบที่สบายตาอย่างอัตโนมัติ เพียงแค่กรอกรายละเอียดตามที่ระบบถามเท่านั้น . . เพราะเส้นทางแห่งความสำเร็จมีมากกว่า 1 คำตอบ ดังนั้นจึงไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนใดสามารถชี้ชัดและให้คำตอบกับท่านได้ว่า ธุรกิจของท่านต้องใช้คุณสมบัติไหนและอย่างไร ? มีเพียงคนเดียวที่จะตอบคำถามนี้ ซึ่งคนนั้นก็คือ “ลูกค้า” ลูกค้าจะคอยชี้แนะว่าท่านควรจะตอบรับกับคุณสมบัติไหนและบอกปฏิเสธกับอะไร . . ท่านไม่ต้องออกวิ่งไปหา “คำตอบ” เพียงท่านศึกษาเครื่องมือต่างๆ ให้ถ่องแท้และลึกซึ้ง แล้วจึงค่อยๆ ทำการเชื่อมโยงเข้ากับภาพของลูกค้าของท่าน แล้วขัดเกลาจากประสบการณ์ในการพบเจอลูกค้าว่าคุณสมบัติไหนบ้างที่ต้องเน้นหนักและต้องพัฒนา อย่างเฉียบคมหรือมีคุณสมบัติไหนบ้างที่เกินความจำเป็น แล้วเมื่อถึงเวลาที่พอเหมาะ “คำตอบ” จะวิ่งมาหาท่านเอง . . เพราะเครื่องมือมีพร้อมอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือ “จินตนาการ” . . ที่มา : https://linecorp.com/th/company/mission, http://at.line.me/th/feature #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.9 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณนันทิศา อัครเกษมพร MANAGER ทีม LINE@ บริษัท ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มาแบ่งปันเคล็ดลับสุดพิเศษ ในการทำให้ธุรกิจก้าวไปได้ไกล เมื่อใช้ LINE@ #Speaker #DNAbySPU2 14 October 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง
0 Comments
#DNAjournal2 #EP8
. . The Birth of Emerging Technology “เทคโนโลยีเกิดใหม่... Solution ที่รอคอยการเชื่อมต่อ” . . ท่านเคยสังเกตไหมว่า ทำไมคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือหลังจากเปิดตัวไม่นานก็จะมีรุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น ความจุเยอะขึ้น ใช้งานได้นานขึ้นออกมา ส่วนรุ่นเก่าที่เพิ่งออกมาจะกลายเป็นของล้าสมัยและราคาตกลงอย่างน่าตกใจ . . ถ้าย้อนรอยกลับไปศึกษาเส้นทางของนวัตกรรม ท่านจะพบความจริงที่ว่าคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ถูกสร้างขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมในช่วงเวลาปัจจุบันถึงได้มีสมรรถนะที่ก้าวกระโดดแต่กลับมีราคาที่ถูกลง ? . . มีกฎอยู่ชิ้นหนึ่งที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจนว่าทำไมสินค้าเทคโนโลยีถึงได้ราคาที่ถูกลง สวนทางกับประสิทธิภาพที่มากขึ้น นั่นคือกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ซึ่งจริงๆ แล้ว คือ การสังเกตของ กอร์ดอน มัวร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร่วมของ Intel ที่สังเกตว่าปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม จะเพิ่มเป็นเท่าตัวในทุกๆ สองปี . . กฏดังกล่าวต้องการจะสื่อสารว่าทุกๆ สองปี ประสิทธิภาพของสินค้าเทคโนโลยีที่ใช้ชิปประมวลผลเป็นพื้นฐานสำคัญในการผลิตจะถูกเพิ่มเป็นสองเท่าโดย อัตโนมัติซึ่งอาจจะดูเหมือนไม่มากมายอะไรนัก แต่ถ้าคำนวณดูจะพบว่ามีอัตราความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ . . ในปี 1970 ความเร็วเป็น 1 เท่า ในปี 1972 ความเร็วเป็น 2 เท่า 1974 เป็น 4 เท่า 1976 เป็น 8 เท่า แต่ถ้าไล่มาเรื่อยๆ จนถึงปี 2016 เราจะพบว่าความเร็วจะเพิ่มเป็น 8,388,608 เท่า หรือในระยะเวลา 20 ปี เร็วขึ้นกว่าเดิน 8 ล้านเท่า และอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็น 2 พันล้านเท่า และจะเพิ่มไปเรื่อยๆ . . กฎดังกล่าวส่งผลให้การสร้างสรรค์เทคโนโลยี มีราคาต้นทุนที่ถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ การสร้างสรรค์เทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่มากมาย หรือทักษะขั้นสูงที่ยุ่งยากอีกต่อไป . . จึงทำให้เกิด “เทคโนโลยีเกิดใหม่” (Emerging Technology) เป็นเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนไม่สูงมากและอนุญาตให้ผู้ประกอบการทั่วไปสามารถนำวิทยาการนี้ไปต่อยอดและผสมผสานเข้ากับเนื้อหาธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ . . ในปี 2011 มีบริษัทที่ให้บริการโซลูชั่นธุรกิจทั้งหมด 150 บริษัท ในปี 2015 มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 3,500 บริษัท และในปี 2017 คาดว่าจะมีมากกว่า 5,000 บริษัท การที่มีผู้พัฒนาเทคโนโลยีเกิดใหม่จำนวนมาก เป็นเรื่องดีเพราะทำให้มีจำนวนของโซลูชั่นมากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เหรียญมีสองด้านเสมอ การที่มีโซลูชั่นจำนวนมากจนเกินไป ทำให้ท่านตัดสินใจติดขัด เพราะท่านไม่รู้จะเลือกใช้โซลูชั่นไหน อันโน้นก็ดี อันนี้ก็น่าสนใจ . . เปรียบเสมือนการที่ท่านเข้าไปในซุปเปอร์มาเก็ตแล้วไม่รู้ว่าต้องซื้ออะไร สุดท้ายก็เดินตัวเปล่าออกมาและไม่เกิดประโยชน์ . . ผู้ประกอบที่ชาญฉลาดสามารถเลือกสรรเทคโนโลยีมาใช้งานได้ตามความต้องการในเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าท่านไม่มีความรู้ในเชิงลึก หรือเวลาในการติดตามข่าวสารเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด ท่านจะสามารถเลือกโซลูชั่นอย่างชาญฉลาดได้หรือไม่ ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณจอมทรัพย์ สิทธิพิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัท EXZY COMPANY LIMITED ที่มาแนะนำถึงเคล็ดไม่ลับในการเลือกหยิบจับโซลูชั่นต่างๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ โดยที่ต้นทุนไม่สูงมาก เพื่อก้าวให้ไกลกว่าที่คู่แข่งจะตามทัน . . “โซลูชั่นการสั่งงานด้วยเสียง” (Voice User Interface) เป็นการป้อนข้อมูลด้วยเสียง ซึ่งถูกพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นวิธีการใช้งานที่สะดวกที่สุด เมื่อก่อนโซลูชั่นนี้จะถูกนำมาใช้ในการป้อนข้อมูลเข้าโทรศัพท์เพื่อขอรับบริการ เช่น ระบบ Siri ของ iPhone ซึ่งมีข้อจำกัด คือ ไม่รองรับภาษาไทย แต่ตอนนี้มีการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้รองรับภาษาไทยและใช้งานได้แล้ว เช่น การเปิดตัว Sansiri AI Box ผู้ดูแลบ้านเสมือนที่รับคำสั่งเสียงภาษาไทย ที่จะคอยแจ้งข้อมูลประจำวัน หรือทำหน้าที่เสมือนผู้ดูแลบ้านให้แก่ผู้พักอาศัย เป็นต้น . . “โซลูชั่นการตรวจจับใบหน้า” (Face Detection) เป็นระบบที่ใช้ในการพิสูจน์ยืนยันตัวตนบุคคลโดยใช้คุณลักษณะจำเพาะทางสรีระ ซึ่งนอกจากจะนำมาใช้กับเนื้อหาของความปลอดภัย เช่น การยืนยันบุคคลก่อนเข้าอาคารสำนักงานแล้ว ยังสามารถพัฒนาเข้ากับเนื้อหาของการบริการได้อีกด้วย เช่น การจดจำว่าเมนูโปรดของลูกค้าท่านนี้คืออะไรหลังจากเดินเข้ามาในร้าน เป็นต้น . . “นักประดิษฐ์ยุคใหม่” (DIY maker) เป็นกลุ่มคนที่ต่อยอดมาจากวัฒนธรรม Do-It-Yourself โดยนำสิ่งของมาดัดแปลงและต่อยอดโดยผสมเทคโนโลยีลงไป เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ รวมไปถึงงานศิลป์และงานหัตถกรรมต่างๆ โดยเครื่องมือที่นิยมมากที่สุด คือ เครื่องพิมพ์สามมิติ (3D printer) และอาร์ดุยโน่ (Arduino) ซึ่งมีคุณสมบัติคือสามารถตั้งโปรแกรมและเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ในบ้านได้ง่าย โดยแหล่งรวมตัวที่ใหญ่ที่สุดคือ FAB Café ที่ TCDC . . “เทคโนโลยีเสมือนจริง” (Immersive Technology) คือ อุปกรณ์ที่ทำให้อยู่ในโลกเสมือนจริงผ่านทางแว่น VR โดยเทคโนโลยีนี้สามารถประยุกต์ใช้งานได้ 5 สาขาด้วยกัน 1. Product Experience : พาลูกค้าไปสัมผัสกับสินค้าจริงในโลกเสมือน เช่น พาลูกค้าไปสัมผัสการขับรถรุ่นใหม่ในสนามจริง 2. Tangible Experience : สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้เห็นคุณภาพสินค้าที่ได้เปิดเผยรายละเอียดไว้ เช่น การพาไปดูคอนโดติดทะเล ให้เห็นบรรยากาศจริงก่อนตัดสินใจ 3. Education Experience : ใช้สำหรับการศึกษาในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย เช่น การพาชมกรรมวิธีการผลิตวัตถุร้ายแรง 4. Event Experience : การใช้ควบคู่กับการจัดกิจกกรมเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วม เช่น การแนะนำการทำงานของโทรศัพท์มือถือ Galaxy Note 7 ในงาน Samsung Galaxy Unpacked 2016 5. Training : ใช้กับการฝึกซ้อมก่อนปฎิบัติงานจริง เช่น KFC ที่ให้พนักงานใหม่ได้ฝึกปรุงอาหารให้ชำนาญก่อนออกไปให้บริการ . . “Infographic / FB Post” ตอนนี้แพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียได้พัฒนาให้รองรับระบบ 360องศา และ Augmented Reality แล้วทำให้การโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวมีสีสันมากขึ้น . . “หุ่นยนตร์ต้อนรับ” (Welcome Robot) ทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนเพื่อเพิ่มความทันสมัยให้ร้านค้า . . “Innovative Display” เช่น จอที่มองเห็นได้ทั้งสองด้าน จอที่สามารถทำให้โค้งงอได้ จอที่สามารถมองทะลุได้ จอกระจก จะถูกนำมาใช้ในการตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศมากกว่านำมาใช้งานเพื่อความบันเทิง . . “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence) การที่คอมพิวเตอร์ชาญฉลาดขึ้น มีสาเหตุมาจาก ต้องมีกระบวนการเรียนรู้หรือ Machine Learning เสียก่อน และต้องมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่มากพอ หรือ Big data ถึงจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและช่วยทุ่นแรงมนุษย์ได้ . . “Tech start up” คือ กลุ่มคนที่ทำงานเสมือนฝ่ายวิจัยและพัฒนา (Research & Development) ในสายเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับเนื้อหาธุรกิจในด้านต่างๆ ได้ การที่ท่านรู้จักเยอะ ก็เปรียบเสมือนท่านมีแคตตาล็อคเทคโนโลยีอยู่ในมือ สามารถเปิดดูได้เมื่อต้องการ . . สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกโซลูชั่นต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงเข้ากับเนื้อหาทางธุรกิจของท่านคือ ท่านต้องเข้าใจเสียก่อนว่าท่าน “มีปัญหาอะไร” และท่านต้องการ “ความช่วยเหลือด้านไหน” เพราะเทคโนโลยีถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้ท่านเพิ่มความสามารถ ขยายศักยภาพและต่อเติมประสิทธิภาพ แต่จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าท่านไม่รู้ว่าท่านจะใช้โซลูชั่นนั้น “เพื่ออะไร” . . และเมื่อท่านทำการเชื่อมโยงกับโซลูชั่นได้อย่างไร้รอยต่อแล้ว แสดงว่าท่านกำลังสร้าง “นวัตกรรมในแบบฉบับของท่านเอง” . . ที่มา : https://goo.gl/Y39hKu , https://goo.gl/m9v7fT #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. 2. ข้อมูล EP.8 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณจอมทรัพย์ สิทธิพิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัท EXZY COMPANY LIMITED เจ้าของผลงานสุดล้ำ ที่ร่วมพัฒนา กับบริษัท MICROSOFT และ SAMSUNG อย่าง “MULTI-TOUCH INTERACTIVE TABLE” วิทยาการที่ล้ำหน้าอยู่รายล้อมตัวเราและไกลเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ ปัญหาคือเราจะหยิบจับวิทยาการเหล่านั้นมาปรับใช้กับธุรกิจเราได้อย่างไร? เคล็ดไม่ลับที่ทำให้เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาการและก้าวให้ไกลกว่าที่คู่แข่งจะตามทัน #Speaker #DNAbySPU2 14 October 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP7 The Big Move of Mobile Photography “ก้าวไกลไปกับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน”11/6/2017 #DNAjournal2 #EP7
. . The Big Move of Mobile Photography “ก้าวไกลไปกับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน” . . คำว่า Photography หรือการถ่ายภาพนั้น เกิดจากการผสมผสานของภาษากรีก 2 คำ คือ Phos หมายถึง “แสงสว่าง” Graphein หมายถึง “การเขียน” เมื่อมาควบรวมกัน จึงหมายถึง “การเขียนด้วยแสงสว่าง” . . ในโลกของการถ่ายภาพมีการพัฒนาเทคโนโลยีของการถ่ายภาพอยู่เสมอ ในปี 1676 โยฮานน์ สเตอร์ม ได้ประดิษฐ์กล้องแบบรีเฟล็กซ์ โดยใช้กระจกเงาตั้งเป็นมุม 45 องศา เพื่อรับแสงแล้วสะท้อนเข้าสู่จอรับภาพทำให้ได้ภาพหัวตั้งเหมือนที่มองเห็น ทำให้เกิดความสะดวกในการมอง ในปี 2002 Nokia ได้พัฒนา Nokia 7650 ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกทีมีการติดตั้งกล้องแบบเต็มรูปแบบเข้ากับโทรศัพท์มือถือ ในปี 2013 Apple ได้ออกแบบ Iphone 5 ที่มีกล้องที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีความชัดเจนใกล้เคียงกับภาพที่ถ่ายโดยฟิล์มเนกาทีฟ . . การพัฒนาในข้างต้น ทำให้ในยุคสมัยนี้ “การถ่ายภาพ” ได้รับความนิยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุกคนสามารถเป็นช่างภาพได้โดยไม่ต้องลงทุนกับกล้อง SLR หรืออุปกรณ์ราคาแพง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ท่านจะพบเห็นคนหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อจดบันทึกเรื่องราว เช่น บันทึกเหตุการณ์ที่น่าตื่นกลัว ถ่ายภาพที่บ่งบอกถึงตัวตน หรือเก็บความประทับใจในการเจอเพื่อนและความเอร็ดอร่อยบนจานอาหาร . . แต่เทคโนโลยีการแสดงผลของกล้องในสมาร์ทโฟนอย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ การที่จะทำให้เกิดกระแสความนิยมขนาดใหญ่มักจะต้องมีปัจจัยเกื้อหนุนในหลายๆ มิติ เช่น “มิติของการตัดต่อ” ที่ลดทอนขั้นตอนลงโดย App สมัยใหม่ ที่แทบจะไม่ต้องอาศัยทักษะความชำนาญในการใช้งานเลย หรือ “มิติของการส่งต่อ” ที่แพลตฟอร์มโชเชี่ยลมีเดียเอื้ออำนวยให้รูปที่ถ่ายสามารถโบยบินไปสู่สังคมได้ในแทบจะทันทีเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส . . เมื่อมิติของเทคโนโลยี มาเชื่อมโยงกับมิติของการตัดต่อ และถูกครอบด้วยมิติของการส่งต่อ ปัจจัยดังกล่าวทำให้เกิดแนวโน้มใหม่ที่มีอิทธิพลต่อคนทั่วทั้งโลก นั่นคือ การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน หรือ “Mobile Photography” . . “Mobile photography” ได้เปลี่ยนแนวคิดของผู้คนต่ออุตสาหกรรมการถ่ายภาพอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้เป็นสิ่งที่ยากมากๆ ที่จะระบุว่าภาพไหนมาจากช่างภาพมืออาชีพ หรือช่างภาพมือสมัครเล่น จึงทำให้มีหลากหลายคนและหลากหลายแบรนด์ฉกฉวยช่วงเวลาที่อุปกรณ์ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ในการสร้างประโยชน์ให้แก่ตนเองแล้วธุรกิจของท่านจะสามารถฉกฉวยประโยชน์จากช่วงเวลานี้ได้ไหม ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณสิรภพ วรรณทอง ช่างภาพมืออาชีพและ Founder at GolfSirapop Photo มาช่วยอธิบายถึงขั้นตอนของการถ่ายภาพสินค้าที่ยอดเยี่ยมด้วยสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องพึ่งกล้องราคาแพงและอุปกรณ์ที่เกินความจำเป็น . . พื้นฐานสำคัญที่สุดของการถ่ายภาพ คือ คิดและสรุป “คอนเซ็ปต์ของภาพ” (Conceptual Photography) ออกมาเสียก่อนว่าท่านอยากจะถ่ายอะไรและจะนำเสนออย่างไร การกำหนดเนื้อหาของภาพ จะมีข้อดี คือ ทำให้ภาพในหัวของท่านรู้ว่าท่านจะถ่ายภาพนี้ไปเพื่ออะไร เมื่อท่านสรุป “เนื้อหาของภาพ” ออกมาเรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์และเทคนิคจะตามออกมาเองโดยอัตโนมัติ . . “การโฟกัส” (Focus) ถ้าต้องถ่ายรูปคน จะต้องทำการโฟกัสที่ตาเสมอ ถ้าถ่ายรูปสินค้าต้องโฟกัสที่แบรนด์ ถ้าถ่ายรูปสินค้าที่มีโลโก้ต้องโฟกัสที่โลโก้ของสินค้านั้นๆ . . “แสง” (Lighting) ขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าท่านต้องการแสงลักษณะใด แข็งหรือนุ่ม ทอดยาวหรือเฉพาะจุด แต่เคล็ดลับสำคัญ คือ การให้ “แสงกระจายอย่างทั่วถึง” ไม่ให้มีอะไรตกแสง เพื่อภาพที่ออกมาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน . . “การจัดองค์ประกอบภาพ” (Composition) ให้ยึดถือในกฏสามส่วน ซึ่งถูกค้นพบโดย ปีทาโกรัส นักคณิตศาสตร์ชาวกรีก ที่อ้างอิงจากทฤษฎีระบบสัดส่วนที่ดีที่สุดในการมองเห็นของมนุษย์ ซึ่งได้ถูกพัฒนาเป็นจุดตัด 9 ช่อง หลักสากลในการถ่ายภาพ เป็นการวางจุดที่ต้องการจะเน้น ไว้บนจุดตัดจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ภาพของท่านดูน่าสนใจมากกว่าการวางจุดที่ต้องการจะเน้น ไว้ตรงกลางหรือตำแหน่งอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาการจัดองค์ประกอบภาพแบบอื่นด้วย เช่น Flatlay มุม 45 องศา หรือมุมระนาบเดียวกับพื้น เพื่อที่ท่านจะได้หยิบมาใช้ได้ทันที . . การใช้ “แอพหรือฟิลเตอร์” เพื่อตกแต่งภาพและเพิ่มความน่าสนใจเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ถ้าทำแบบไหนแล้ว ให้ใช้แบบนั้นไปตลอด ไม่ควรเปลี่ยนเพราะลูกค้าจะได้จดจำรูปแบบภาพถ่ายธุรกิจของท่านได้ . . ถ้าธุรกิจของท่านเป็นร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านค้าปลีก ท่านควรจัดให้มี “จุดสำหรับถ่ายรูป” ให้บริการด้วย เพื่อท่านจะได้นำรูปของลูกค้าที่ถ่ายกับสถานที่ไปสร้าง Content ต่อ . . อย่าลืมฝึกพนักงานให้มีความรู้พื้นฐานการถ่ายภาพ การจัดวางองค์ประกอบ เช่น การวางเฟรมให้เหมาะสมและสมบูรณ์ รวมถึงมีความกล้าหาญพอที่จะช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานในการถ่ายภาพ เพื่อจะให้พนักงานสามารถบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจ . . ในอดีตท่านอาจจะมองว่า “รายละเอียดเล็กน้อย” เหล่านี้ไม่มีความสำคัญจึงไม่จำเป็นจะต้องลงทุน แต่ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว สมาร์ทโฟนได้ทำให้ทุกคนกลายเป็นช่างภาพ ดังนั้นรายละเอียดเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมมหาศาล โดยเฉพาะในสังคมโซเชี่ยลมีเดีย ที่มักจะเผยแพร่เรื่องราวความประทับใจให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ . . และไม่แน่ว่า “รายละเอียดเล็กน้อย” เหล่านี้จะสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” ให้กับธุรกิจของท่านอย่างไม่คาดคิดก็เป็นได้ . . ที่มา : https://goo.gl/Jk6Ivd , https://goo.gl/5hw2c8 #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.7 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณสิรภพ วรรณทอง ช่างภาพมืออาชีพ และ Founder at GolfSirapop Photo มาช่วยอธิบายถึงขั้นตอนของการถ่ายภาพสินค้าที่ยอดเยี่ยมด้วยสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องพึ่งกล้องราคาแพงและอุปกรณ์ที่เกินความจำเป็น #Speaker #DNAbySPU2 14 October 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP6
. . The 4th wave of marketing “คลื่นลูกที่ 4 ของการตลาด” . . ในปี ค.ศ. 1980 Alvin Toffler นักอนาคตวิทยาและอดีตบรรณาธิการของนิตยสาร Fortune ได้เขียนหนังสือ “The Third Wave” ที่จะฉายภาพให้ผู้อ่านได้มองเห็นถึงภาพใหญ่ของการเคลื่อนไหวทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน ว่ามีพัฒนาการและความเป็นมาอย่างไร โดยเขาเลือกใช้สัญลักษณ์ "คลื่น" เพราะสื่อถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และจะจางหายไปเมื่อมีคลื่นลูกใหม่เกิดมาแทนที่ . . โดยคลื่นแต่ละลูกจะสะท้อนถึงเทคโนโลยีที่มีผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงเข้ากับรากฐานการผลิต ความเป็นไปในสังคม ระบบเศรษฐกิจและการทำธุรกิจในช่วงเวลาของคลื่นระลอกนั้น ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นคลื่น 3 ลูกด้วยกัน . . คลื่นลูกที่ 1 คือ “เทคโนโลยีเกษตรกรรม” เริ่มตั้งแต่วันที่มนุษย์หยุดล่าสัตว์และพืชผักผลไม้ และหันมาตั้งถิ่นฐานทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ทำให้เกิดการรวมกลุ่ม ก่อให้เกิดการสร้างสังคมและวัฒนธรรม เริ่มจากระดับหมู่บ้านจนไปถึงระดับประเทศ ในช่วงเวลานี้เครื่องมือสร้างความมั่งคั่ง คือ ที่ดินและเเหล่งผลิตเกษตรกรรม . . ในปีค.ศ. 1760 ประเทศอังกฤษประสบความสำเร็จในการนำเอาเครื่องจักรไอน้ำมาประดิษฐ์เป็นเครื่องจักรทอผ้าและ ใช้ถ่านหินเป็นพลังงานทางการผลิต นับเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกที่ 2 คือ “เทคโนโลยีอุตสาหกรรม” ที่เน้นไปที่การผลิตจำนวนมากเพื่อตอบสนองตลาดขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดการพัฒนาของภาคการขนส่งและกระจายสินค้าไปยังช่องทางต่างๆ ในช่วงเวลานี้ผู้ที่เป็นต่อ คือ ผู้ที่ครอบครองโรงงานขนาดใหญ่และทรัพยากรที่มหาศาล . . คลื่นลูกที่ 3 คือ “เทคโนโลยีสารสนเทศ” เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อมีการประดิษฐ์คิดค้นคอมพิวเตอร์ขึ้นและมีความพยายามในการทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกัน เพื่อให้ผู้คนในแต่ละมุมโลกเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ในเครือข่ายที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดการหลั่งไหลของข้อมูล ซึ่งส่งผลให้เกิดการสังเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ได้อย่างกว้างขวาง . . แนวคิดของ Alvin Toffler ได้สร้างแรงบันดาลใจอย่างมากต่อ Steve Case หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท America Online (AOL) ที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมออนไลน์และธุรกิจดอตคอม เป็นมาตรฐานของระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ในปีค.ศ 2015 เขาได้ต่อยอดแนวความคิดนี้และเขียนหนังสือชื่อ The Third Wave: An Entrepreneur’s Vision of the Future แต่ในหนังสือเล่มนี้จะเน้นไปที่ระลอกคลื่นอินเตอร์เน็ต ในขณะที่หนังสือของ Alvin Toffler เน้นไปที่เทคโนโลยีของอุตสาหกรรม . . Steve Case ได้ให้ความเห็นว่า ในช่วงเวลาปัจจุบัน (2016) โลกได้ขับเคลื่อนไปสู่คลื่นลูกที่ 3 นั่นคือ “ยุคของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค” นั่นคือ ประชากรโลกนับหลายพันล้านคนเชื่อมโยงกันผ่าน Social Media ที่มีการเชื่อมต่อแบบยิ่งยวดอยู่ตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยี Mobile Internet 5G กำลังจะถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2020 โดยมีขีดความสามารถในการส่งข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูงกว่า 4G อย่างน้อย 10 เท่า . . เมื่อโลกกำลังสิ้นสุดยุคอุตสาหกรรมและกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีถูกพันเข้ากับสังคมข้อมูลข่าวสาร ทำให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาดที่ท่านเรียนรู้มาในโลกยุคเก่า คงไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปในยุคสมัยนี้ ดังนั้นท่านจะต้องทำการตลาดอย่างไร ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจากคุณ สโรจ เลาหศิริ Chief Marketing Officer แห่ง Rabbit’s Tale ดิจิทัลเอเจนซีที่น่าจับตาที่สุดแห่งยุค มาช่วยถอดรหัสแนวคิดการตลาดที่จะสร้างคุณค่าให้ธุรกิจของท่าน สามารถรับมือเข้ากับคลื่นของการเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที . . Philip Kotler หนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่สุดต่อนักการตลาดทั่วโลก ได้ให้ความเห็นในหนังสือล่าสุด Marketing 4.0 ของเขาว่าการเข้าสู่ยุคดิจิทัลนั้นไม่ใช่แค่การเข้ามาของ Digital Marketing แต่มันคือการเปลี่ยนระบบการตลาดที่ทุกท่านคุ้นเคยไปอย่างสิ้นเชิง . . Marketing 1.0 เป็นยุคเริ่มต้นที่ผู้ประกอบการเริ่มผลิดสินค้าออกมาจำหน่าย จึงต้องทำการแจกแจงออกมาเป็นแนวคิด 4P เพื่อง่ายต่อการเข้าใจ อันประกอบด้วย Product (สินค้า) Price (การกำหนดราคา) Place (การหาช่องทางจำหน่าย) Promotion (การสื่อสารให้คนเข้าใจ) โดยเนื้อหาของการสื่อสารการตลาดจะแข่งขันกันด้วย “คุณสมบัติการใช้งานในขั้นที่เหนือกว่า” เช่น แข็งกว่า ถูกกว่า หนากว่า ทนกว่า . . Marketing 2.0 เป็นยุคของการเปลี่ยนมุมมองจากผลิตและหาวิธีขายมาเป็น “การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” (Consumer Centric) จึงต้องวิวัฒน์แนวคิด 4P เดิมมาเป็น 4C แต่พูดในมุมของลูกค้ามากขึ้น คือ Consumer (การมองว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นลูกค้า) ท่านจึงต้องเลือกกลุ่มลูกค้าหลัก แล้วสร้างสินค้าที่ลูกค้านั้นต้องการ Cost (ขายในราคาที่ลูกค้ากลุ่มนั้นรับได้) Convenience (ขายในช่องทางที่ลูกค้าสะดวก) Communication (สื่อสารกับลูกค้าในภาษาที่เค้าต้องการรับรู้) โดยเนื้อหาของการสื่อสารการตลาดจะเน้นในแนวทางสร้างอารมณ์ร่วมกับลูกค้าให้คล้อยตาม . . Marketing 3.0 เป็นยุคแห่งการเข้าถึง “จิตวิญญาณของมนุษย์” (Human Spirit) เช่น แนวคิด CRM (Customer Relationship Management) ที่ถูกพัฒนาเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าแล้ว จะต้องวิวัฒน์สู่ CEM (Customer Experience Management) หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดกับลูกค้าโดยการนำเครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เข้าบริการและสื่อสารกับลูกค้า ทั้ง Online Offline มาควบรวมกันเพื่อส่งมอบ ประสบการณ์แบบเดียวกัน หรือการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) อาจไม่ลึกซึ้งพออีกต่อไป ต้องวิวัฒน์สู่การเป็น CSV (Creating Share Value) คือ การนำการเปลี่ยนแปลงโดยชักชวนทุกภาคส่วน ทั้งระบบนิเวศของธุรกิจให้เติบโตและเติมคุณค่าไปด้วยกัน . . Marketing 4.0 เป็นยุคที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดสังคมที่เชื่อมต่อคนทั้งโลกเข้าด้วยกันอย่างไร้พรมแดน ผู้บริโภคในยุคนี้มีรูปแบบไลฟ์สไตล์ และอุปนิสัยต่างจากผู้บริโภคที่เราเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง พวกเขาสามารถรวมพลังในการก่อให้เกิดกระแสต่างๆ ทั้งในทางบวกและทางลบด้วยพลังของมวลชนและความเร็วของการเดินทางของข้อมูล ลูกค้ามีช่องทางและข้อมูลข่าวสารมากพอที่จะค้นหาข้อมูลที่แท้จริง ดังนั้น “คุณภาพของสินค้าจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป” ถ้าสินค้าไม่ดีจริงและใช้การโฆษณาเพื่อบิดเบือนข้อมูลย่อมจะโดนกระแสลงโทษจากโลกออนไลน์ แต่ถ้าสินค้าดีจริงโลกออนไลน์จะช่วยแนะนำและบอกต่อกันอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมซึ่งนับเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการอย่างมหาศาล . . ดังนั้นในยุคที่ 4 ผู้ประกอบการต้องทำสินค้าให้ดี และเปิดรับเสียงตอบรับทั้งด้านดีและด้านไม่ดีจากลูกค้า เพื่อดูแลลูกค้าให้ประทับใจที่สุด และเพื่อให้ลูกค้าช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับธุรกิจของท่าน . . Charles Darwin บิดาแห่งทฤษฎีของวิวัฒนาการ กล่าวว่า “ผู้อยู่รอดไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้เก่งที่สุด” ธุรกิจของท่านก็เหมือนกันต้องเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลง . . ก่อนที่จะถึงช่วงเวลาที่สายจนเกินไปและไม่เหลือสิ่งใดให้เปลี่ยนแปลง . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.6 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณสโรจ เลาหศิริ Chief Marketing Officer แห่ง Rabbit’s Tale ดิจิทัลเอเจนซีที่น่าจับตาที่สุดแห่งยุค มาช่วยถอดรหัสแนวคิดการตลาดที่จะสร้างคุณค่าให้ธุรกิจของท่าน สามารถรับมือเข้ากับคลื่นของการเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที #Speaker #DNAbySPU2 9 September 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP5
. . Welcome to Virtual Reality World “ขอต้อนรับสู่โลกเสมือนจริง” . . หลายท่านคงเคยจินตนาการถึงการสวมบทบาทเป็นตัวละครเอกในเกมหรือภาพยนตร์ ที่ท่านได้รับภารกิจให้ออกเดินทางผจญภัยไปในดินแดนที่ท่านไม่รู้จัก เพื่อเอาชีวิตรอดจากศัตรูที่พร้อมจะจู่โจมท่านทุกทิศทาง ถ้าทำได้จริงๆ มันจะสนุกขนาดไหน ? . . ฟังดูอาจจะเหมือนเราเพ้อฝันและเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้มีสิ่งหนึ่งที่เปิดประตูสู่โลกที่เสมือนจริงได้เกิดขึ้นแล้วนั่นคือ VR หรือ Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีในการจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ที่ทำให้ผู้ใช้เกิดการ “รับรู้” และ “รู้สึก” เหมือนจริงมากที่สุด . . ถ้าย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของระบบ VR จะพบว่าจุดกระเพื่อมแรกสุดเกิดขึ้นในปี 1965 นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกัน lvan Sutherland ประดิษฐ์จอภาพสวมศีรษะ 3 มิติ รุ่นแรกเพื่อฝึกยุทธวิธีทางการทหาร ต่อมาในปี 1982 มีการสร้างหนังที่พูดถึง VR ครั้งแรกคือเรื่อง “Tron” และในปี 1999 ทั่วโลกได้รู้จักระบบ VR อีกครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง The Matrix ซึ่งเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณให้นักพัฒนาทั่วโลก หันมาสนใจกับเครื่องมือแห่งอนาคตชิ้นนี้ . . แต่เครื่องมือชิ้นนี้ไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกของจินตนาการที่เกี่ยวกับโลกอนาคตอย่างเดียวเท่านั้น ในโลกความเป็นจริง VR ก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน . . Palmer Luckey เด็กหนุ่มในแคลิฟอร์เนียที่เรียนหนังสือเองที่บ้าน แต่มีความหลงใหลในระบบ VR ไม่แพ้ใครได้สร้างแว่นต้นแบบที่เขาดัดแปลงขึ้นในโรงรถของพ่อแม่ ในปี 2012 เขาได้นำแว่นรุ่นที่หก ที่มีชื่อว่า "Rift" หรือแพที่จะเชื่อมระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนไว้ด้วยกัน เข้าไปลงทะเบียนในระบบของ Kickstarter แพลตฟอร์มระดมทุนชื่อดัง . . บังเอิญใน Kickstarter มีสมาชิกคนหนึ่งคือ John Carmack เขาคือผู้ก่อตั้งค่ายเกม id Software และเป็นมันสมองคนสำคัญผู้สร้างเกมตระกูล FPS ให้โลกรู้จักมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Doom, Quake ซึ่งแว่น VR เป็นเรื่องหนึ่งที่ Carmack สนใจเป็นทุนเดิม จึงได้ตัดสินใจทำงานร่วมกัน ภายใต้ชื่อ Oculus VR Inc และในปี 2014 Facebook ได้ตัดสินใจซื้อกิจการ Oculus ในมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลล่าร์ . . ถ้า VR ถูกพัฒนาอย่างถูกจุดและต่อเนื่องอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับอุตสาหกรรมความบันเทิงทั้งหมดก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม วิทยาการที่ล้ำสมัยอย่างระบบ VR จะสามารถนำมาปรับใช้กับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมได้อย่างไร ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณจิรยศ เทพพิพิธ Founder and CEO at Infofed.com ผู้ผลิตคอนเทนท์ Infographic Motiongraphic และ Graphic Recording เพื่อการศึกษา ผู้ปลุกกระแสให้ Infographic กลับมาอีกครั้ง กับผลงาน Infographic รายการคืนความสุขของท่านนายกฯ มาแบ่งปันการประยุกต์ใช้ VR ผสมผสานเข้ากับเนื้อหาทางธุรกิจ . . เทคโนโลยี VR จะทำให้ท่านท่องไปในโลกจินตนาการอย่างเต็มตัว ผ่านมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง (First Person) เพื่อสร้างโลก “เสมือนจริง”ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสความสนุกและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเล่นเกมและการชมภาพยนตร์ . . เนื้อหาที่จะนำมาใช้งานกับเทคโนโลยีชิ้นนี้กว้างขวางมาก ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้ในอุตสาหกรรมที่สร้างความบันเทิงเท่านั้น เช่น เนื้อหาของการศึกษา ที่ใช้เทคโนโลยี Immersive VR Education ช่วยจำลองสถานที่และสภาพแวดล้อมที่เข้าถึงไม่ได้เพื่อประกอบการเรียนรู้และการบรรยายบทเรียน เช่น การอธิบายภูมิศาสตร์ของประเทศไทยในครั้งอดีต หรือบรรยากาศของโลกดึกดำบรรพ์ในสมัยไดโนเสาร์ . . ปฏิวัติวงการศิลปะและการท่องเที่ยว โดยให้นักท่องเที่ยวมองผ่านแว่นตา VR เพื่อรับภาพประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นจริง เช่น ที่พระราชวังทองคำของจักรพรรดิเนโรในอิตาลี เมื่อนักท่องเที่ยวมองผ่านแว่น VR ในจุดที่กำหนดไว้จะเห็นสภาพพระราชวังในศตวรรษที่ 1 ซึ่งนอกจากจะดูตื่นเต้นแล้ว ยังเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจและซึมซับสุนทรียะของโบราณสถานได้ง่ายขึ้น . . สำหรับเนื้อหาด้านการแพทย์ เทคโนโลยีนี้จะช่วยรักษาโรคโฟเบียหรือหวาดกลัวสิ่งต่างๆ ได้ เช่น หากหวาดกลัวการพูดในที่สาธารณะ แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยโดยให้ผู้ป่วยฝึกพูดในที่สาธารณะในโลกเสมือนจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยและลดอาการตื่นเต้น . . ทางด้านเนื้อหาทางธุรกิจ เทคโนโลยี VR สามารถสร้างสถานการณ์เสมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น เช่น การเปิดตัวสินค้า Galaxy Note 7 ในงาน Samsung Galaxy Unpacked 2016 ที่ให้ผู้ชมสามารถสัมผัสบรรยากาศการเปิดตัวสินค้าผ่าน VR หรือ การนำเทคโนโลยีจำลองโลกเสมือนจริงมาใช้เปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ Noble Around Sukhumvit 33 ที่นอกจากจะช่วยให้ผู้ซื้อมีโอกาสได้สัมผัสห้องตัวอย่างหรือโครงการบ้าน ในมิติที่มากกว่าแค่ข้อมูลจากโบรชัวร์หรือโมเดลจำลอง . . หากมองย้อนกลับไปในอดีต จะเห็นได้ว่ามนุษย์นั้นพัฒนารูปแบบการสื่อสารขึ้นมาอย่างเป็นลำดับ ตามลักษณะการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งแต่ภาพเขียนบนกำแพงถ้ำในยุคหินจนมาถึงยุคปัจจุบันที่เขียนข้อความบนกำแพงของ Facebook . . ดังนั้นท่านจะหยุดพัฒนาวิธีเล่าเนื้อหาของธุรกิจได้อย่างไร ? . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.5 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณจิรยศ เทพพิพิธ Founder and CEO at Infofed.com ผู้ผลิตคอนเทนท์ Infographic Motiongraphic และ Graphic Recording เพื่อการศึกษา ผู้ปลุกกระแสให้ Infographic กลับมาอีกครั้ง กับผลงาน infographic รายการคืนความสุข ของท่านนายกฯ มาแบ่งปันการประยุกต์ใช้ VR ผสมผสานเข้ากับเนื้อหาทางธุรกิจ #Speaker #DNAbySPU2 8 September 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP4
. . The science of scent “ถอดรหัส ...วิทยาศาสตร์แห่งกลิ่น” . . ได้ดูรายการนั้นไหม ? ลองจับสิ่งนี้ดูสิ ? ลองฟังเพลงนี้ดูหรือยัง ? . . หลายครั้งที่เรามักเติมคำกริยาว่า “ดู” เข้าไปเวลาพูดถึงการใช้สัมผัสต่าง ๆ นั่นสะท้อนให้เห็นว่า เราให้คุณค่าของ “การมอง” มากกว่าประสาทสัมผัสประเภทอื่น . . ในบรรดาประสาทสัมผัสของมนุษย์ซึ่ง ประกอบไปด้วยสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส การดมกลิ่นหรือ “นาสิกสัมผัส” นั้นดูเหมือนจะมีความสำคัญน้อยกว่าผัสสะอื่นๆ จึงมักถูกมองข้ามไปอย่างน่าน้อยใจ . . ซึ่งการถูกมองข้าม ก็ส่งผลให้มีการวิจัยและการพัฒนาที่ล่าช้า จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายๆท่านมีมุมมองต่อ นาสิกสัมผัส ว่าเปรียบเสมือน “เครื่องมือสำหรับสร้างความรื่นรมย์” เท่านั้น เช่น การใส่น้ำหอม เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความดึงดูดต่อเพศตรงข้าม . . แต่จากงานวิจัยที่ออกโดยนักวิทยาศาสตร์ ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่าง “กลิ่นกับอารมณ์” เพราะกระแสประสาทของกลิ่นจากจมูกสามารถถ่ายทอดไปที่สมองได้โดยตรง ในส่วนของสมอง “ระบบลิมบิก” (Limbic system) ที่มีหน้าที่เก็บความทรงจำทั้งในระยะสั้นและระยะยาว . . ข้อเท็จจริงนี้แสดงให้เห็นว่า กลิ่นมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อวิถีชีวิตอย่างมหาศาล และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถนำศาสตร์ของกลิ่นมาประยุกต์ใช้กับสิ่งอื่นๆได้อีกมากมาย คำถามคือท่านจะนำศาสตร์นี้ไปใช้ได้อย่างไร ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณชลิดา คุณาลัย ผู้เจนจัดในสุนทรียะแห่งกลิ่น ที่มาจุดประกายความคิดว่ากลิ่นนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง และทำไมกลิ่นถึงมีส่วนสำคัญในธุรกิจไม่แพ้การโฆษณา . . “กลิ่นช่วยสร้างยอดขาย” คือการใช้ศาสตร์ของกลิ่นนำมาประยุกต์เข้ากับเครื่องมือทางการตลาดที่จะส่งมอบคุณค่าที่สร้างมูลค่าให้กับลูกค้า เช่น ฟอร์ด ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังที่ศึกษาและพบว่า “กลิ่นคืออีกหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญเมื่อลูกค้าเลือกซื้อรถใหม่” จึงได้ขยายห้องทดสอบกลิ่นประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ที่นานจิง ประเทศจีน เพื่อสร้างกลิ่นที่คงสภาพในทุกสภาวะการใช้งาน เหมือนกับตอนออกรถใหม่จากศูนย์บริการ หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ การใช้กลิ่นเพื่อสร้างบรรยากาศของความผ่อนคลายในร้านค้าปลีก ในแนวคิดของ aromatherapy หรือ “สุคนธบำบัด” . . “กลิ่นช่วยส่งเสริมการเรียนรู้” จากรายงานของมหาวิทยาลัยเยล นักจิตวิทยาชื่อ แกรี สจ๊วต ได้ทดลองถามปัญหาที่เกินความรู้ความสามารถของนักศึกษามหาวิทยาลัย เช่น การถอดสมการชุดตัวเลขที่ซับซ้อนในเวลาจำกัด กับนักศึกษาจำนวน 48 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม . . ในกลุ่มแรกก่อนถูกตั้งคำถามให้ดมกลิ่นหอมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น กลิ่นของดอกไม้ที่ผสมกับกลิ่นของผลแอปเปิ้ล ในขณะอีกกลุ่มไม่ให้ดมอะไรเลย ผลปรากฏว่ากลุ่มแรกจะมีการหายใจสบายๆช้าๆ กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลาย ความดันเลือดไม่สูง ความเขินอาย และความตึงเครียดมีน้อยกว่าอีกกลุ่มหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด . . “กลิ่นช่วยกระตุ้นความทรงจำ” เรื่องที่เกิดมานานแล้วลืมไปนั้น อาจทำให้หวนระลึกได้อีกด้วย “กลิ่น” นักจิตวิทยา ทริก เอ็งเกน พบว่า คนทั่วไปจำกลิ่นได้ถูกต้อง 65% แม้เวลาจะล่วงมาถึง 1 ปี ในทางตรงข้าม การหวนรำลึกถึงภาพที่เห็นจะลดลงไปราว 50% เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 4 เดือน สาเหตุเพราะ “กลิ่น”จะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำ ด้วยลักษณะเป็น “ภาพที่สมบูรณ์ของผัสสะทั้ง 5” นอกจากนั้นยังสามารถกระตุ้นอารมณ์ที่รู้สึกในครั้งนั้นได้ด้วย . . ท่านสามารถกลั่นกรองศาสตร์ของ “กลิ่น” และนำไปประยุกต์เพื่อสร้างการเชื่อมต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเข้ากับธุรกิจของท่าน เพื่อเติมเต็มสัมผัสทั้ง 5 เพราะ ทฤษฎีสัมผัสทั้ง 5 เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์มากใน “การออกแบบบริการ” (Service design) . . สิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าท่านพยายามศึกษา ค้นคว้าและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งท่านอาจจะได้รู้สึกถึง “กลิ่นแห่งความสำเร็จ” ก็เป็นได้ . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.4 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณชลิดา คุณาลัย ผู้เจนจัดในสุนทรียะแห่งกลิ่น ที่มาจุดประกายความคิดว่ากลิ่นนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง และทำไมกลิ่นถึงมีส่วนสำคัญในธุรกิจไม่แพ้การโฆษณา #Speaker #DNAbySPU2 7 October 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP3.. A river changes course “เมื่อแม่น้ำเปลี่ยนทิศ... ธุรกิจต้องเปลี่ยนทาง”10/9/2017 #DNAjournal2 #EP3
. . A river changes course “เมื่อแม่น้ำเปลี่ยนทิศ... ธุรกิจต้องเปลี่ยนทาง” . . หนึ่งในทฤษฎีเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ได้แก่ “กฎของมัวร์” (Moore's law) ซึ่งถูกตั้งตามชื่อของอดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทล กอร์ดอน มัวร์ (Gordon E. Moore) ระบุไว้ว่าปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวมจะเพิ่มเป็นเท่าตัวประมาณทุก ๆ สองปี ซึ่งหมายความว่า “ในทุก 2 ปี คอมพิวเตอร์จะฉลาดขึ้นอีก 1 เท่าตัว” . . กฎดังกล่าวทำให้ในพื้นที่ต่างๆ มากมายทั่วโลก เกิดสิ่งที่เรียกว่า “เทคโนโลยีเกิดใหม่ ” (Emerging Trends) ซึ่งคือกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น แต่ใช้ทรัพยากรให้น้อยลง ตัวอย่างเช่นกรณี เติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่อาศัยเทคโนโลยีมาเป็นรากฐานสำคัญในการเร่งสปีดของการเติบโต . . ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหตุการณ์และหลักฐานต่างๆ ได้พิสูจน์และเปิดเผยให้ท่านเห็นแล้วว่า ทุกธุรกิจทั่วโลกในแต่ละภาคส่วนได้รับผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนาจากสิ่งที่เรียกว่า “เทคโนโลยี” ทำให้เทคโนโลยีเปรียบเสมือน “ผู้ร้าย” ที่ทำให้ท่านรู้สึกไม่อยากทำความรู้จัก . . สื่อต่างๆได้ทำให้หลายๆท่านรับรู้แล้วว่าเทคโนโลยีได้ฆ่าธุรกิจไปจำนวนมาก แต่ท่านอาจจะไม่ค่อยตระหนักว่าเทคโนโลยีก็สร้างชีวิตแก่ธุรกิจมากมายเช่นกัน . . ดังนั้นท่านจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะใช้เทคโนโลยีมาสร้างชีวิตได้อย่างไร ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจากคุณธนา เธียรอัจฉริยะ CMO ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ผู้อำนวยการหลักสูตร ABC สถาบันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมที่มาแบ่งปันวิธีเผชิญหน้าและรับมือ “แม่น้ำเปลี่ยนทิศ” ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้ . . ในอนาคตอันใกล้นี้ “ความเข้าใจ” (Empathy) จะเป็นกลยุทธ์เดียวที่จะทำให้ท่านรับมือกับแม่น้ำที่เปลี่ยนทิศได้ ซึ่งความเข้าใจสามารถแยกย่อยได้เป็นสองแง่มุมคือ ท่านจะต้องมีความ “เข้าใจในโลกใบนี้” และเหนือสิ่งอื่นใดท่านต้อง “เข้าใจในอารมณ์มนุษย์” . . “การเข้าใจในโลกใบนี้” คือ การรับรู้และเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนฐานรากของการทำธุรกิจ เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ทุกธุรกิจต้องพึ่งพาเทคโนโลยี . . สมาร์ทโฟนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูล แต่ประเด็นใหญ่ที่สำคัญคือ “สมาร์ทโฟนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน” เช่นในสมัยก่อนผู้คนมีความคาดหวังที่เล็กน้อย และความอดทนที่สูงพอ ที่จะรอบริการจากช่างซ่อมประปาที่จะในวันถัดไปได้ แต่ในช่วงเวลานี้ลูกค้ามีความคาดหวังที่สูงขึ้นซึ่งสวนทางกับความอดทนที่ต่ำลง เช่นถ้าท่อน้ำมีปัญหาตอนนี้จะยอมจ่ายเงินให้กับช่างที่มาบริการเดี๋ยวนี้ . . “การเข้าใจในอารมณ์มนุษย์” คือการเอาใจของเราออกไปแล้วใส่ใจของเขาเข้ามา เป็นการจำลองโลกใบเล็กๆหลายใบ เพื่อไปใช้ชีวิตของคนอีกคน ในอีกมุมมอง ฟังเรื่องราวของคนอื่น ทำซ้ำไปมาแล้วโลกใบเล็กหลายๆใบจะกลายเป็นโลกใบใหม่เพื่อสะสมองค์ความรู้ใหม่ๆ . . เช่นกรณีของ Start up ชื่อ Refinn ที่ให้บริการรีไฟแนนซ์บ้านแบบไม่มีค่าใช้จ่าย หลังจากเปิดตัวไม่นานและไม่มีโฆษณาใดๆ "Refinn" กลายเป็นหนึ่งในคำ Search ที่คนไทยหามากที่สุด เพราะคำว่า Refinn พ้องกับคำว่ารีไฟแนนซ์ที่คนไทยตามหามาตลอด . . ดังนั้นท่ามกลางแม่น้ำที่จะเปลี่ยนทิศ สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของท่านสามารถยืนหยัดได้คือการสอดประสานกันของความเข้าใจในโลกใบนี้และความเข้าใจของอารมณ์มนุษย์ที่เปรียบเสมือนการทำงานของไม้กระดกที่ต้องการน้ำหนักที่เท่ากันของสองด้านเพื่อสร้างสมดุล . . และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อท่านอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วท่านจะเข้าใจเช่นกัน . . #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.2 ต่อยอดจากการบรรยายของ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ CMO ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ผู้อำนวยการหลักสูตร ABC สถาบันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมที่มาแบ่งปันวิธีเผชิญหน้าและรับมือ “แม่น้ำเปลี่ยนทิศ” ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้ #Speaker #DNAbySPU2 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP2
Think outside the box “คิดนอกกรอบ เพื่อเห็นโลกใหม่” . . "ดร.เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน" อาจารย์แพทย์ นักจิตวิทยา และนักเขียน ผู้ริเริ่มแนวความคิดเรื่อง Lateral Thinking (การคิดนอกกรอบ) และได้พัฒนาต่อเนื่องเป็นแนวคิดที่เรียกว่า "Six Thinking Hats (กระบวนการคิดแบบหมวกหกใบ) ได้กล่าวถึงความคิดสร้างสรรค์ว่า . . “ความคิดสร้างสรรค์เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของการคิดที่มีอยู่ในศาสตร์ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเงิน การตลาด แรงงานสัมพันธ์ การวิจัยและการแก้ปัญหา การวางแผน ฯลฯ ดังนั้นความเชื่อที่ว่า การคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องของศิลปะ เท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก” . . ความคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบจะนำไปสู่นวัตกรรมและการค้นพบวิถีทางแก้ปัญหาใหม่ๆ ถ้าหากไม่เกิดความคิดนอกกรอบก็ย่อมจะไม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ และ เทคโนโลยีต่าง ๆ ในโลกก็คงจะไม่ก้าวหน้าอย่างที่เป็นอยู่ . . หลายองค์กรทราบดีว่า ในยุคสมัยนี้องค์กรไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ หรือต้านทานกระแสน้ำของความเปลี่ยนแปลงได้เลย และความคิดสร้างสรรค์เปรียบเสมือนกุญแจที่จะนำไปสู่นวัตกรรมและการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ จึงได้มีนโยบายสนับสนุน การ ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนและองค์กรเพื่อสร้างสรรค์งานให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อที่จะก้าวไปสู่คำว่า “องค์กรแห่งนวัตกรรม” . . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “นิ้วกลม” ที่มาเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ที่จับต้องไม่ได้และเป็นสิ่งที่ไกลตัวสำหรับคนที่ไม่คุ้ยเคยให้มาเป็น “ความรู้สึก” ที่ทุกคนสามารถเชื่อมโยงและสัมผัสได้ . . เพราะทุกคนล้วนติดอยู่ใน “กรอบความคิด” โดยที่ไม่รู้ตัว และกรอบความคิดจะปิดตาท่านไว้ ไม่ให้มองเห็นความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือต้องเรียนรู้เสียก่อน ว่ากรอบประกอบไปด้วยด้านไหนบ้าง ? . . เมื่อท่านรู้ถึงด้านต่างๆ ของกรอบความคิดแล้ว ท่านจะสามารถทลายกรอบความคิด ได้ด้วยคำพูดเพียงแค่คำเดียว เป็นคำพูดที่แสนเรียบง่ายแต่ทรงพลัง นั่นคือการตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว . . ด้านที่ 1 คือ “ความพึงพอใจ” เมื่อเราสิ้นสุดความคิดที่คำว่าดีแล้ว โดยธรรมขาติสมองของเราจะหยุดการทำงานทันที ดังนั้นเราจึงควรขยายระยะเวลาการใช้ความคิดออกไปอีกหน่อย ด้วยการตั้งคำถามต่อเนื่องว่า ดีแล้ว...หรือยัง ? เพื่อบังคับให้ทิศทางของความคิดพุ่งเป้าไปที่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ . . ด้านที่ 2 คือ “มุมมอง” เมื่อเรามีมุมมองแค่ด้านเดียว เราจะเห็นโลกในแง่มุมที่จำกัด แต่ถ้าเราขยับตัวและยืนมองสิ่งๆนั้นในองศาที่ต่างไป เราจะมีมุมมองอีกด้าน เช่นไฟแช็คถ้าในสายตาของคนที่อยู่ในเมือง อาจจะเหมือนไร้ค่า แต่ถ้าไปอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ไฟแช็คอันเดียวกันนั้นจะเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ . . ด้านที่ 3 คือ “ชื่อ” เพราะเมื่อเราได้ยินชื่อ สมองของท่านจะดึงภาพของชื่อนั้นออกมาโดยอัตโนมัติ เช่น “เก้าอี้” ภาพจำคือวัตถุสำหรับรองนั่งที่ต้องมีสี่ขา แต่ถ้าเป็นวัตถุรองนั่งที่มีห้าขาเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นและเสริมความมั่นคง ท่านจะเรียกว่าสิ่งนั้นว่าเก้าอี้หรือไม่ ? . . ด้านที่ 4 คือ “ความรู้” อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์กล่าวว่า “ท่านไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ถ้าท่านใช้ระบบความคิดเดียวกับที่สร้างปัญหานั้นขึ้นมา” ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาขึ้น ท่านลองไปดูงานของอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ดูซิ ท่านอาจจะเจอวิธีการที่คาดไม่ถึงก็ได้ เช่นถ้าท่านมีปัญหาเรื่องสต้อกสินค้าคงค้าง ลองไปดูวิธีบริหารสต้อกของร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ . . ด้านที่ 5 คือ “ความเชื่อมโยง” บางสิ่งทีต่างกันเมื่อท่านมองหาความเหมือนของสิ่งที่ต่างกัน แล้วนำมาเชื่อมโยงกัน จะเกิดสิ่งมหัศจรรย์ เช่น Post it คือการเชื่อมโยงกันระหว่างการและกระดาษจดขิ้นเล็กๆ . . ด้านที่ 6 คือ “ประสบการณ์” เพราะประสบการณ์คือบ่อเกิดของความคิด ถ้าท่านอยากจะมีความคิดที่หลากหลาย ท่านควรทำสิ่งที่ท้าทายโดยการเดินออกไปนอกความสนใจของตนเอง เพื่อหาเลนส์สายตาใหม่ๆ เช่นทำกิจกรรมแปลกๆ อ่านหนังสือผู้หญิงทั้งๆที่ตัวท่านเองเป็นผู้ชาย ดูหนังหรืออ่านหนังสือแนวที่ไม่คาดคิดมาก่อน . . เป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่สรรหาคนเก่ง ๆ มาอยู่ในองค์กรแล้วไม่ได้ส่งเสริมให้คนในองค์กรได้เกิดความคิดสร้างสรรค์เพื่อมาใช้ในการพัฒนาหรือสร้างนวัตกรรม . . ดังนั้นท่านที่เป็นผู้นำขององค์กรควรตั้งคำถามกับกรอบข้างต้นเพื่อท้าทายและเพิ่มศักยภาพให้คนในองค์กรของท่าน มีสภาวะของความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา #itsyouYOU . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal2 จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU2 2. ข้อมูล EP.2 ต่อยอดจากการบรรยายของ จาก คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “นิ้วกลม” ที่มาเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ที่จับต้องไม่ได้และเป็นสิ่งที่ไกลตัวสำหรับคนที่ไม่คุ้ยเคยให้มาเป็น “ความรู้สึก” ที่ทุกคนสามารถเชื่อมโยงและสัมผัสได้ #Speaker #DNAbySPU2 31 September 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal2 #EP1
[Diamond is unbreakable. :: เพชรแท้ไม่มีวันสลาย] คุณอำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 IDOLS บุคคลสาธารณะ โดย ADAY 2551 . . การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1784 ถูกเรียกว่า “ยุคสมัยแห่งไอน้ำ” เจมส์ วัตต์ ได้ปรับปรุงเครื่องจักรกลไอน้ำนิโคแมน ซึ่งใช้น้ำและไอน้ำ มาแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการผลิตเพื่อทดแทนพลังงานกล้ามเนื้อที่มาจากแรงงานคนและสัตว์ สามารถสร้างรถไฟ ลดระยะทางคมนาคม และนำไปสู่การสร้างเครื่องจักรที่ช่วยในการผลิต รวมไปถึงเรือเดินสมุทร . . ต่อมาใน ค.ศ. 1870 ก็เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ขึ้นนั่นคือ “ยุคสมัยแห่งไฟฟ้า” เมื่อ เฮนรี่ ฟอร์ด ได้นำระบบสายพานเข้ามาใช้ในสายการผลิตรถยนต์ และเปลี่ยนจากการใช้เครื่องจักรไอน้ำ มาใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ส่งผลให้สามารถปลดปล่อยพลังการผลิตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน . . อีก 99 ปีให้หลัง มนุษย์ทำให้เกิดปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สามขึ้น ใน ค.ศ. 1969 คือการเข้ามาของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือที่เรียกว่า “ยุคแห่งอินเทอร์เน็ต” ถูกสร้างขึ้นเพื่อทลายกำแพงของข้อมูลข่าวสารที่ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่หนึ่ง ทำให้ทุกคนในโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว . . และในช่วงเวลานี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คือ “การปฏิวัติเทคโนโลยีดิจิทัล” เป็นการต่อยอดและผสมผสานเทคโนโลยีหลายด้าน เพื่อช่วยงานมนุษย์ได้กว้างขวาง เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศ การพิมพ์สามมิติ ไบโอเทคโนโลยี เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และพันธุวิศวกรรม ฯลฯ . . การปฏิวัติอุตสาหกรรมในแต่ละครั้ง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆไปมากมาย ตั้งแต่วิถีชีวิตจนกระทั่งถึงการทำธุรกิจ มีหลายๆภาคส่วนได้รับผลพวงในด้านที่ดีอย่างมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้ง แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ เมื่อมีผู้ได้รับประโยชน์ ย่อมต้องมีผู้เสียประโยชน์หรือโดนทำลายเป็นธรรมดา . . และถ้าธุรกิจหรือพื้นที่ที่เรายืนอยู่กำลังจะตกเป็นเป้าหมายของการทำลายในครั้งต่อไปล่ะ เราจะทำอย่างไร ? . . หลักสูตร #DNAbySPU2 ได้รับเกียรติจาก คุณอำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 IDOLS บุคคลสาธารณะ โดย ADAY 2551 มาร่วมแลกเปลี่ยนบทสนทนากันอย่างใกล้ชิด และเล่าถึงแนวคิดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างสง่าผ่าเผยในห้วข้อ “Offline vs Online แตกต่างหรือคู่ขนาน” . . ถ้าเราทุกคนเปรียบเสมือนต้นไม้ที่อยู่ในป่า เราจะไม่มีทางเห็นภาพรวมของป่าทั้งหมดว่าป่านั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ? แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ คนที่เห็นสัจธรรมข้อนี้จะเป็นคนที่สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดีและปรับเปลี่ยนอย่างมีความสุข . . ดังนั้นสิ่งที่เราต้องเริ่มทำคือ หาเวลานั่งนิ่งๆซักพักและเริ่มการคุยกับตัวเอง แล้วจึงออกเดินทางดำดิ่งลงไปในความคิดของตน เพื่อที่จะค้นพบ Passion ของตัวเอง หรือถ้าอธิบายให้ง่ายกว่านั้นคือการขุด “เพชรแท้” ที่อยู่ในตัวเองขึ้นมา . . เมื่อเราสามารถขุดเพชรแท้ที่ซ่อนอยู่ในตัวเราขึ้นมาได้แล้ว ให้ใช้เวลาอีกสักพักในกระบวนการ “เจียระไน”อย่างใส่ใจและรอบคอบ แล้วแสงของเพชรที่สะท้อนกับแสงภายนอกจะส่องประกายให้เราพบกับเส้นทางที่ชัดเจน เช่น ลูกค้าหลักของธุรกิจเรา คุณค่าและความเชื่อหลักของเรา และเราทำธุรกิจนี้เพื่ออะไร ? . . คุณหนุ่มมีความเชื่อทีว่า “หนังสือเปลี่ยนแปลงคนได้” หรือ “หนังสือที่ดีเปรียบเสมือนประตูที่จะช่วยให้บางคนเข้าไปในพื้นที่หรือดินแดนที่ไม่คุ้นเคยได้” และถึงแม้ “ตลาดหนังสืออาจจะตายแต่ตัวหนังสือไม่มีวันตาย” . . ความเชื่อทั้งหมดนี้จึงถูกเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกันแล้วสรุปออกมาเป็น “ร้านหนังสือเดินทาง” ที่ถูกจัดอยู่ในประเภทเล็กแต่ลึก ซึ่งไม่ได้ขายแต่หนังสือประเภทเดินทางเท่านั้น แต่รวมไปถึงหนังสือที่นำไปสู่การเดินทางของจินตนาการและศาสตร์ใหม่ๆอีกด้วย . . สำหรับคุณหนุ่มแล้ว “เพชรแท้” ที่ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องและยืนอยู่ได้อย่างสง่างามท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของกระแสเทคโนโลยีคือการเดินทาง แล้วสำหรับเราล่ะ “เพชรแท้” คืออะไร ? . . "เล็กๆที่ใช่ ...ดีกว่าใหญ่ที่ไม่จริง" เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) #itsyouYOU . . Reference : The Fourth Industrial Revolution เขียนโดย Klaus Schwab . . หมายเหตุ 1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU 2. ข้อมูล EP.1 ต่อยอดจากการบรรยายของคุณอำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 IDOLS บุคคลสาธารณะ โดย ADAY 2551 มาร่วมแลกเปลี่ยนบทสนทนากันอย่างใกล้ชิด เป็นกันเองและเล่าถึงแนวคิดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างสง่าผ่าเผยในห้วข้อ “Offline vs Online แตกต่างหรือคู่ขนาน” #Speaker #DNAbySPU2 23 September 2017 . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง #DNAjournal EP.22 #DNAbySPU
[ทำไมประเทศไทย…เปลี่ยนไม่ทันโลก] ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม . . ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในเสวนาพิเศษหัวข้อ “เปลี่ยน…ให้ทันโลก New World, New Opportunity, New Business” โดยหนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ . . พวกเราคงเคยได้ยินเพื่อนๆของเราแนะนำว่า “คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ออกมาใหม่ ยังไม่ต้องรีบซื้อหรอก เดี๋ยวก็มีรุ่นใหม่ออกมา รอซื้อตอนตกรุ่นละกัน” . . ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงเพราะหลังจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เปิดตัว หลังจากนั้นไม่นานก็จะมีรุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น ความจุเยอะขึ้น ใช้งานได้นานขึ้นออกมา . . แต่คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ? คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ก็มีมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมใน 10 ปีนี้ถึงได้มีสมรรถนะที่ก้าวกระโดด มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ? . . มีกฎอยู่ชิ้นหนึ่งที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจนคือ กฎของมัวร์ (Moore’s law) ซึ่งอธิบายว่าปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม จะเพิ่มเป็นเท่าตัวในทุก ๆ สองปี ซึ่งหมายความว่าพลังความจุหรือการคำนวณจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในทุกสองปี . . อาจจะดูเหมือนไม่มากมายอะไรนักแต่ถ้าเราคำนวณดู เราจะพบว่ากฎนี้แหละที่อธิบายว่าทำไมเทคโนโลยีถึงโตแบบ ก้าวกระโดดจนเราตามไม่ทัน . . ในปี 1970 ความเร็วเป็น1 เท่า ในปี 1972 ความเร็วเป็น 2 เท่า 1974 เป็น 4 เท่า 1976 เป็น 8 เท่า แต่ถ้าไล่มาเรื่อยๆจนถึงปี 2016 เราจะพบว่าความเร็วจะเพิ่มเป็น 8,388,608 เท่า หรือในระยะเวลา 20 ปี เร็วขึ้นกว่าเดิน 8 ล้านเท่า และอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็น 2 พันล้านเท่า และจะเพิ่มไปเรื่อยๆและเรื่อยๆ . . และกฎของมัวร์จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะ “ข้อมูลในโลก” จะเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบของดิจิทัลเกือบทั้งหมด เราจึงเห็นรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆขึ้นมากมาย เช่นการหาข้อมูลสินค้าผ่านทาง Google หาคลิปสอนการทำอาหารจาก youtube หาเส้นทางไปประชุมผ่าน Google maps ซึ่งทำให้การเรียนรู้และข้อมูลจะไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป . . สิ่งของรอบๆตัวเราจะ “ฉลาด” ขึ้น เช่นรถที่สามารถขับได้เองอัตโนมัติ โดยปราศจากคนขับ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเช่นตู้เย็นจะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเพื่อแจ้งเตือนเราว่า เราต้องซื้ออะไรบ้าง . . อุปกรณ์ต่างๆจะถูกหลอมรวม (Convergence) เข้าไว้ด้วยกัน ในสมัยก่อนในการทำงานจะต้องมีอุปกรณ์สำนักงานหลายชิ้น เช่น โทรศัพท์ เครื่องพิมพ์ดีด แฟกซ์ เครื่องคิดเลข และเอกสารอ้างอิงต่างๆ แต่ในสมัยนี้ทุกอุปกรณ์ถูกหลอมรวมไว้ภายในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว . . ในสมัยก่อนการทำธุรกิจจะเป็นระบบ Pipeline คือ “ทำจนจบกระบวนการ” ถ้าเราจะทำธุรกิจ เราต้องมีโรงงาน มีเครื่องจักร ทำการตลาด และหาลูกค้า ซึ่งในแต่ละภาคส่วนจะต้องมี “ผู้ควบคุม” (Gate keeper) เพื่อดูแลและควบคุมงานแต่ละส่วนให้มีประสิทธิภาพที่สุดเช่น ในขั้นตอนการผลิตจะมีผู้จัดการโรงงาน หรือในขั้นตอนการตลาดจะมีหัวหน้าฝ่ายการตลาดเพื่อควบคุมคุณภาพ . . แต่ในสมัยใหม่เกิดการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆคือการสร้าง Platform หรือ “ตลาดนัด” เพื่อเป็นพื้นที่ให้เจ้าของสินค้านำเสนอสินค้าเจอกับลูกค้า โดยที่ตัว Platform เองไม่ต้องเป็นเจ้าของสินค้าเลย เช่น Grabtaxi Alibaba Amazon หรือ AirBnB . . ทำไมวิธีการนี้ถึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ? เพราะวิธีการแบบ platform ขจัด “ผู้ควบคุม” (Gatekeeper) ออก เจ้าของสินค้าสามารถนำเสนอสินค้าได้เลยทันที โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนและยุ่งยาก ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน . . รวมถึงมีระบบสะท้อนความเห็น (Feedback loop) ในกรณีสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ลูกค้าจะเป็นคนบอกลูกค้ากันเองผ่านการ comment และแพร่กระจายไปสู่ลูกค้าคนอื่นๆ จึงทำให้เจ้าของสินค้ากลัวเสียชื่อเสียง จึงทำให้เกิดการควบคุมพฤติกรรมตนเองโดยอัตโนมัติ . . อย่างไรก็ตามหลายต่อหลายครั้ง “อารมณ์ความรู้สึก” ก็มีความขัดแย้งกับเทคโนโลยีที่เป็น”เหตุผล” อยู่เสมอ เพราะเราหลายๆคนไม่เชื่อในความสามารถของเทคโนโลยี เราเข้าไม่ถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว จึงเป็นสาเหตุสำคัญให้ชาวไทยส่วนมากก้าวไม่ทันเทคโนโลยี เราจึงคัดค้านการลงทุนที่มาจากต่างประเทศ . . ใช้โซเชียลมีเดียอย่างเข้าใจ เพราะในโซเชียลมีเดียนั้นเหมาะสำหรับการแบ่งปันข้อมูลร่วมกัน แต่จะไม่เหมาะในการหาข้อยุติหรือจะสร้างอะไรร่วมกัน เพราะมนุษย์ต้องการการสื่อสารแบบสองทางในการหาข้อยุติ . . โซเชียลมีเดียทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อเข้าหากันได้ง่าย ดังนั้นลูกค้าจะไว้ใจในเครือข่ายกันเองมากกว่าโฆษณาสินค้าและ ถ้ามีเพื่อนได้รับสินค้าที่บกพร่องคุณภาพ ลูกค้าจะโจมตีทันทีและแพร่กระจายต่อไปสู่วงที่ใหญ่กว่า ดังนั้นผู้ประกอบการควรใส่ใจในคุณภาพเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน . . S-curve ถูกทำให้สั้นลง เพราะการเติบโตของเทคโนโลยี ยิ่งเป็นสินค้าที่ใช้วิทยาการล้ำหน้าเท่าไหร่ S-curve จะสั้นลงเท่านั้น . . เมื่อมีการคิดสิ่งใหม่ๆ ทำลายสิ่งที่มีอยู่เดิมจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “Creative destruction” (การทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์) ซึ่งมักจะเกิดบ่อยๆในธุรกิจที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่ไม่มีนวัตกรรมของตัวเอง เช่นสำนักข่าว พ่อค้าคนกลาง บริษัทโฆษณา ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เป็นตัวกลางควรจะเร่งสร้างนวัตกรรมของตัวเอง . . World Bank Development Reporter (2016) ระบุว่า 72 %ของงานในประเทศไทยมีโอกาสถูกทดแทนด้วยระบบ Automation เพราะในประเทศไทยมักจะใช้ระบบ “แรงมือ” ซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องจักรสามารถทำแทนได้ เพราะรวดเร็วกว่าและราคาถูกกว่า . . สนับสนุน Startup ได้แต่อย่าทอดทิ้ง SME จำนวน2,746,733 ราย เพราะ SME เป็นรากฐานของเศรษฐกิจ จะทำอย่างไรให้เขาเข้มแข็งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ? . . ในการพัฒนาความรู้ อย่ารอแต่ให้คนมาช่วยอย่างเดียว เราต้องพัฒนาตัวเองให้มีความรู้รอบด้าน และไม่หยุดยั้งในการพัฒนาตัวเอง เพราะตอนนี้ข้อมูลในโลกเกือบทุกอย่าง อยู่ในรูปแบบดิจิตอลแล้ว เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ในโลกอย่างไร้พรมแดน . . ประเทศไทยเป็นผู้ผลิต Hard disk drive อันดับ 1 ของโลก และเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดัน 12 ของโลก แต่ที่น่าแปลกใจคือ เราไม่มีตราสินค้าของเรา เราทำได้เพียงรับจ้างผลิตเท่านั้นเพราะเราลงทุนใช้งบในการวิจัยและพัฒนาน้อย เมื่อเทียบกับประเทศจีนและประเทศเกาหลีใต้ . . เราพยายามหลีกหนีจากนวัตกรรม (Innovation) เพราะเราเข้าใจว่า Innovation ต้องอาศัยวิทยาการที่ทันสมัย แต่จริงๆแล้วคือการแก้ปัญหาโดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ . . การปรับตัวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 นั้นไม่ง่าย แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแต่เราต้องสร้างความสมดุลกันระหว่าง “อารมณ์” และ “เทคโนโลยี” และหาจุดเชื่อมโยงเพื่อหลอมรวมของสองสิ่งนี้เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้คนไทยและประเทศไทยจะได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและแข็งแรง . . ชมการเสวนาแบบเต็มๆได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=tmXMJjTapjg . . ขอขอบคุณข้อมูลจาก #matichontv . . #itsyouYOU . . 🔹🔹 #DNAbySPU2 “COME JOIN THE RIDE” 🔹🔹 www.DNAbySPU.com Speaker #DNAbySPU2 https://goo.gl/XGaKHx . เครดิตภาพ ขอบพระคุณ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ และ สำนักพิมพ์มติชน หมายเหตุ #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลจากการเสวนาของดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในเสวนาพิเศษหัวข้อ “เปลี่ยน…ให้ทันโลก New World, New Opportunity, New Business” โดยหนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ . . จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU www.DNAbySPU.com ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง |
DNAbySPUหลักสูตรพัฒนาพันธุกรรม Archives
June 2019
Categories |